คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางและขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.) เสนอ
สงป. รายงานว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระที่ 1 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 และได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 นั้น โดยที่หากการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้วเสร็จ จะปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงได้จำนวนหนึ่ง สงป. จึงจำเป็นต้องกำหนด แนวทางการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายตามที่คาดว่าจะมีการปรับลดงบประมาณลงได้ ในครั้งนี้ สงป. จึงเสนอแนวทางและขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดังนี้
1. แนวทางการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยให้หน่วยรับงบประมาณเสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ ดังนี้
1.1 เป็นรายจ่ายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 แผนการปฏิรูปประเทศ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
1.2 เป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพัน รายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ สังคม รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือเป็นรายจ่ายที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง ตลอดจนรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของหน่วยรับงบประมาณ
1.3 เป็นรายจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน หรือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแล้ว
ทั้งนี้ แนวทางการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดังกล่าวข้างต้น มีเงื่อนไขดังนี้
(1) รายการที่เสนอขอเพิ่มงบประมาณต้องเป็นรายการที่มีอยู่ในคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (9 สิงหาคม 2562) ยกเว้นรายจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหาย อันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ในข้อ 1.3
(2) ไม่ควรทำให้เกิดภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(3) ไม่ควรผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป
(4) หน่วยรับงบประมาณมีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที
(5) หน่วยรับงบประมาณต้องเสนอโครงการ/รายการ ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายของหน่วยงานนั้น ๆ
(6) ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561
2. แนวทางการเสนอขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายเฉพาะหน่วยรับงบประมาณที่เสนอขอตั้งงบประมาณไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และกรณีที่มีการโอนภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ ดังนี้
2.1 มีกฎหมายกำหนดให้โอนภารกิจทั้งกรณีที่มีการจัดตั้งหน่วยรับงบประมาณขึ้นใหม่และไม่มีการจัดตั้งหน่วยรับงบประมาณ
2.2 มีพระราชกฤษฎีการวมหรือโอนส่วนราชการเข้าด้วยกันตามนัยมาตรา 8 ทวิ ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2.3 มีการโอนภารกิจการให้บริการสาธารณะให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดตามแผนกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการ ดังนี้
(1) ให้หน่วยรับงบประมาณที่ถูกโอนภารกิจเสนอขอปรับลดงบประมาณเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องโอน
(2) ให้หน่วยรับงบประมาณที่รับโอนภารกิจ เสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ได้ปรับลดตามข้อ (1)
3. ขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของหน่วยรับงบประมาณ
3.1 ให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ได้ตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่าการดำเนินงานนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมายหรือระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอขอรับความเห็นชอบต่อนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด และรวบรวมจัดส่งให้ สงป. พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลรายละเอียดคำขอเพิ่มงบประมาณในระบบ e – Budgeting ภายในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562
สำหรับกรณีการเสนอขอเพิ่มงบประมาณตามแผนงานบูรณาการ ให้เสนอหน่วยงานเจ้าภาพเพื่อรวบรวมเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแผนงานบูรณาการนั้น ๆ พิจารณาให้ความเห็นชอบและส่ง สงป. พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลรายละเอียดคำขอเพิ่มงบประมาณในระบบ e – Budgeting ภายในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562
ทั้งนี้ สำหรับกรณีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ได้มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่า การดำเนินงานนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย หรือระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอขอรับความเห็นชอบต่อนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด และรวบรวมจัดส่งให้ สงป. ภายในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562
3.2 สำหรับหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ ให้ยื่นคำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยตรง ภายในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เพื่อที่ สงป. จะได้ประมวลผลภาพรวมการขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ต่อไป
3.3 ให้ สงป. พิจารณาคำขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และจัดทำข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562 เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามขั้นตอนต่อไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562