คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2562 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ซึ่งได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
โดยที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 จึงสมควรปรับปรุงคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งมีสาระสำคัญซ้ำซ้อนกับพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ปรับปรุงคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2562 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 สรุปการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ตัดข้อที่เกี่ยวข้องกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการดำเนินงานที่เกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงออก เนื่องจากมาตรา 54 ของพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้ข้อกำหนดตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอันยกเลิก
2. ปรับปรุงหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ดังนี้
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2562
(1) กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคาและกำหนดราคาสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตและจำหน่าย ณ โรงกลั่นเพื่อใช้ในราชอาณาจักร หรือน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้าเพื่อใช้ในราชอาณาจักร
(2) กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณและค่าการตลาดสำหรับการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิง
(3) กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณและอัตรา สำหรับค่าขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง หรือค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง
(4) กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคาและกำหนดราคาสำหรับราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นหรือราคาขายปลีก
(5) กำหนดให้โรงกลั่นแจ้งราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
(6) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามคำสั่งนี้
(7) ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 (เดิม)
(1) กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการคำนวณราคา และกำหนดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้าเพื่อใช้ในราชอาณาจักร
(2) กำหนดค่าการตลาดสำหรับการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิง
(3) กำหนดค่าขนส่งไปยังคลังก๊าซและค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาก๊าซ ณ คลังก๊าซ ตลอดจนกำหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซ เป็นราคาเดียวกันทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร
(4) กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนหรืออัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ซื้อหรือได้มาจากผู้รับสัมปทานตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผู้ผลิตได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติในราชอาณาจักร น้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร น้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้าเพื่อใช้ในราชอาณาจักร น้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งออก น้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายให้แก่เรือเพื่อใช้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร และก๊าซหุงต้มที่จำหน่ายให้แก่ประชาชน
(5) กำหนดชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุน หรือไม่ให้ได้รับเงินชดเชย
(6) กำหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นและคำนวณราคาขายปลีก
(7) พิจารณากำหนดอัตราภาษีให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าอัตราภาษีต่ำสุดและไม่สูงกว่าอัตราภาษีสูงสุด
(8) กำหนดให้โรงกลั่นแจ้งราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
(9) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามคำสั่งนี้
(10) ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
3. ตัดข้อกำหนด ข้อห้ามปฏิบัติในการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซหุงต้มออก เนื่องจากมีสาระสำคัญอยู่ในพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 ธันวาคม 2562