คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
กษ. เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบแผนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) (แผนยุทธศาสตร์ฯ) ตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ที่อนุมัติแผนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และมอบหมายการยางแห่งประเทศไทยนำแผนดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้พิจารณาแผนดังกล่าวแล้วมีความเห็นให้การยางแห่งประเทศไทยนำไปทบทวนแผนยุทธศาสตร์ฯ ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และการยางแห่งประเทศไทยได้มีการปรับปรุงแก้ไขตามความเห็น/ข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว
แผนยุทธศาสตร์ฯ มีวิสัยทัศน์ “ประเทศผู้ผลิตยางคุณภาพดี เกษตรกรมีรายได้มั่นคง” ซึ่งในการดำเนินการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ฯ ไปสู่การปฏิบัติได้มีการกำหนดกรอบแนวทางในการดำเนินการ เป็น 3 ระยะ คือ (1) ระยะ 1 – 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) (2) ระยะ 6 – 10 ปี (พ.ศ. 2565 – 2569) และ (3) ระยะ 11 – 20 ปี (พ.ศ. 2570 – 2579) มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. เป้าหมายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์
เป้าหมาย
1. ลดจำนวนพื้นที่ปลูกยางลง
จาก (ปี 2559) 23.3 ล้านไร่
เป็น (ปี 2579) เหลือ 18.4 ล้านไร่
2. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยพื้นที่ โดยกำหนดเป้าหมายปริมาณผลผลิตยางเพิ่มขึ้น
จาก (ปี 2559) เฉลี่ย 224 กิโลกรัม/ไร่
เป็น (ปี 2579) เฉลี่ย 360 กิโลกรัม/ไร่
3. เพิ่มสัดส่วนการใช้ยางภายในประเทศ
จาก (ปี 2559) ร้อยละ 13.6
เป็น (ปี 2579) ร้อยละ 35
4. เพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารา
จาก (ปี 2559) 250,000 ล้านบาท/ปี
เป็น (ปี 2579) 800,000 ล้านบาท/ปี
5. เพิ่มรายได้จากการทำสวนยาง
จาก (ปี 2559) 11,984 บาท/ไร่
เป็น (ปี 2579) 19,800 บาท/ไร่
2. ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategy) ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
1. การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
แนวทางการพัฒนา
เช่น ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางทำสวนยางผสมผสานตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศึกษา ออกแบบ และพัฒนา “กองทุนรักษาเสถียรภาพรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง” ขึ้นในประเทศไทย ส่งเสริมและจูงใจให้เกษตรกรชาวสวนยางรวมกลุ่มกันบริหารจัดการในรูปแบบแปลงใหญ่
2. การเพิ่มประสิทธิภาพและการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน
แนวทางการพัฒนา
เช่น บังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสวนยางที่บุกรุกพื้นที่ป่า กำหนดเขตพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกยาง สนับสนุนและจูงใจให้เกษตรกรชาวสวนยางปลูกยางพันธุ์ดี ที่ให้ผลผลิตสูงและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ รวมทั้งให้ปรับปรุง/พัฒนาคุณภาพยางแปรรูปให้ได้มาตรฐาน GMP
3. การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
แนวทางการพัฒนา
เช่น วิจัยและพัฒนาพันธุ์ยางที่เติบโตเร็วให้ผลผลิตสูง วิจัยและพัฒนารูปแบบการปลูกและระบบการกรีดยางเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด สนับสนุนให้มีการกำหนดโจทย์วิจัยจากปัญหา/ความต้องการของภาคธุรกิจเอกชน และผลักดันและสร้างสิ่งจูงใจให้มีการนำเอาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์และต่อยอดในเชิงพาณิชย์
4. การพัฒนาตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย
แนวทางการพัฒนา
เช่น เชื่อมโยงธุรกรรมการซื้อขายยางในตลาดกลางยางพาราแต่ละแห่งเข้ากับตลาดยางท้องถิ่น เพื่อให้ทั่วโลกนำไปใช้ในการอ้างอิง ออกมาตรการด้านการเงินและการคลังเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อทดแทนการนำเข้า และสนับสนุนให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางพาราได้มีโอกาสนำสินค้าไปเปิดตลาดในต่างประเทศ
5. การพัฒนาปัจจัยสนับสนุน
แนวทางการพัฒนา
เช่น เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยางพาราโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพารา ปรับปรุงและแก้ไขมาตรการส่งเสริมการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมยางพารา เร่งพัฒนานิคมอุตสาหกรรมยางพารา และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พร้อมรองรับการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ศึกษาวิเคราะห์ และจัดทำแผนความต้องการและแผนพัฒนากำลังคนด้านยางพาราของประเทศไทยและจัดกิจกรรม Road Show ในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายเพื่อจูงใจแก่นักลงทุนต่างประเทศ
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ฯ ไปสู่การปฏิบัติ มีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ทำหน้าที่กำกับดูแลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และคณะทำงานด้านต่าง ๆ รับผิดชอบการขับเคลื่อนแต่ละยุทธศาสตร์ โดยทำงานภายใต้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 ธันวาคม 2562