คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากธรณีภัยพิบัติภัย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอดังนี้
1. สมาชิกที่เสียชีวิต หรือสมาชิกรายที่แหล่งที่มาของรายได้เสียหายโดยสิ้นเชิง ให้จำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรเป็นสูญ โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายแทน
2. สมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติภัยจนทำให้พื้นที่ทำกินเครื่องมืออุปกรณ์ประกอบอาชีพเสียหายส่งผลให้ขาดรายได้นำไปชำระหนี้ ให้ได้รับการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายแทน
3. การให้ความช่วยเหลือตามข้อ 1 และข้อ 2 ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
สำหรับงบประมาณเพื่อการดำเนินการตามมาตรการฯ ที่จะต้องจ่ายชดเชยให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 19,370,200 บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ แผนงานส่งเสริมและพัฒนา สหกรณ์ งานส่งเสริมสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร งบเงินอุดหนุน รายการเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยสถาบันเกษตรกรหลังลดภาระหนี้ ซึ่งคาดว่า ยังมีงบประมาณเหลือจ่ายอยู่ประมาณ 230 ล้านบาทก่อน แต่หากไม่สามารถปรับแผนการใช้จ่ายเงินได้ ก็ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณแล้วดำเนินการต่อไป สำหรับการชดเชยดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้เสนอของบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอตามที่ได้รับรายงานจากสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ ว่าสมาชิกที่กู้ยืมเงินไปเพื่อประกอบอาชีพแล้วได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัย ไม่สามารถส่งชำระหนี้เงินกู้ได้ และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือผ่อนคลายด้านหนี้สิน ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกผู้ประสบภัยจากธรณีพิบัติภัยดังกล่าว จึงเห็นควรกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินก่อนประสบภัยจากธรณีพิบัติภัยของสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัยและวิธีปฏิบัติไว้เป็นหลักการดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 มิถุนายน 2548--จบ--
1. สมาชิกที่เสียชีวิต หรือสมาชิกรายที่แหล่งที่มาของรายได้เสียหายโดยสิ้นเชิง ให้จำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรเป็นสูญ โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายแทน
2. สมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติภัยจนทำให้พื้นที่ทำกินเครื่องมืออุปกรณ์ประกอบอาชีพเสียหายส่งผลให้ขาดรายได้นำไปชำระหนี้ ให้ได้รับการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายแทน
3. การให้ความช่วยเหลือตามข้อ 1 และข้อ 2 ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
สำหรับงบประมาณเพื่อการดำเนินการตามมาตรการฯ ที่จะต้องจ่ายชดเชยให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 19,370,200 บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ แผนงานส่งเสริมและพัฒนา สหกรณ์ งานส่งเสริมสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร งบเงินอุดหนุน รายการเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยสถาบันเกษตรกรหลังลดภาระหนี้ ซึ่งคาดว่า ยังมีงบประมาณเหลือจ่ายอยู่ประมาณ 230 ล้านบาทก่อน แต่หากไม่สามารถปรับแผนการใช้จ่ายเงินได้ ก็ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณแล้วดำเนินการต่อไป สำหรับการชดเชยดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้เสนอของบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอตามที่ได้รับรายงานจากสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ ว่าสมาชิกที่กู้ยืมเงินไปเพื่อประกอบอาชีพแล้วได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัย ไม่สามารถส่งชำระหนี้เงินกู้ได้ และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือผ่อนคลายด้านหนี้สิน ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกผู้ประสบภัยจากธรณีพิบัติภัยดังกล่าว จึงเห็นควรกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินก่อนประสบภัยจากธรณีพิบัติภัยของสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัยและวิธีปฏิบัติไว้เป็นหลักการดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 มิถุนายน 2548--จบ--