คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ รับทราบ และเห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63 วงเงินรวมทั้งสิ้น 923,332,332.80 บาท
2. อนุมัติมาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63 วงเงิน 45,000,000 บาท
3. รับทราบมาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63
4. เห็นชอบเพิ่มผู้แทนกรมศุลกากรเป็นกรรมการในองค์ประกอบของคณะกรรมการ นโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.)
จากการหารือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชน เกษตรกร และภาครัฐ และมติคณะกรรมการ นบขพ. เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ดังนี้
1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63
1.1 ชนิดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และพื้นที่ดำเนินการ ประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น 14.5% ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ
1.2 ราคาและปริมาณประกันรายได้ กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% กก.ละ 8.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่
1.3 เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับเงินส่วนต่าง ได้แก่ เกษตรกรทุกรายที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกและแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1.4 เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ เกษตรกร ๑ ครัวเรือน ใช้สิทธิ์ได้ไม่เกิน 30 ไร่
1.5 การชดเชยส่วนต่าง ธ.ก.ส. จะโอนเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง
1.6 ระยะเวลาดำเนินการ
(1) ช่วงเวลาเพาะปลูก ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
(2) ระยะเวลาใช้สิทธิ ใช้สิทธิได้ในช่วงการเก็บเกี่ยวที่ระบุไว้ในทะเบียนเกษตรกร โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2562 ให้มีสิทธิรับเงินชดเชยในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 20 ของเดือนจนถึงระยะเวลาสิ้นสุดการรับสิทธิชดเชยตามโครงการฯ 31 ตุลาคม 2563
(3) ระยะเวลาโครงการ 1 ธันวาคม 2562 – 31 ธันวาคม 2563
3.1.7 งบประมาณ วงเงิน 923,332,332.80 บาท จำแนกเป็นค่าชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาอ้างอิง โดยใช้แหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. วงเงิน 899,484,700 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ ธ.ก.ส. วงเงิน 23,847,632.80 บาท โดยเป็นการชดเชยต้นทุนเงินในอัตราเงินฝากประจำ 12 เดือน ของ ธ.ก.ส. บวก 1 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.40 ต่อปี เป็นเงิน 21,587,632.80 บาท และค่าบริหารจัดการรายละ 5 บาท เป็นเงิน 2,260,000 บาท
2. มาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63
2.1 การบริหารจัดการการนำเข้า โดยกำหนดช่วงเวลาการนำเข้าให้นำเข้าเฉพาะช่วงกุมภาพันธ์ – สิงหาคม ของทุกปี ยกเว้น อคส. หากมีนโยบายให้นำเข้าการควบคุมการขนย้ายในพื้นที่ติดชายแดนเพื่อนบ้าน กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 : 3 การตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายความมั่นคงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการกำหนดมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า เพิ่มความเข้มการตรวจค้นของด่านตรวจความมั่นคง จัดชุดเข้าตรวจตามช่องทางผิดกฎหมายในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนย้าย และให้มีคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการลักลอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน เพื่อศึกษาและนำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหา รวมทั้งพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ลักลอบ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกรและระบบการค้าในประเทศเป็นสำคัญ
2.2 การดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กำหนดให้ผู้รับซื้อแสดงราคา ณ จุดรับซื้อที่ความชื้น 14.5% และ 30% พร้อมแสดงตารางการเพิ่ม – ลด ราคาตามเปอร์เซ็นต์ความชื้น และกำหนดให้ใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก/เครื่องวัดความชื้นที่มีมาตรฐาน
2.3 การดูแลความสมดุล โดยแจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บ การตรวจสอบสต๊อก
2.4 การเพิ่มช่องทางการจำหน่าย โดยเชื่อมโยงผลผลิตกับผู้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
2.5 โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร ปี 2562/63 ให้ ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ/หรือใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการรวบรวมหรือรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562/63 กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อจำหน่ายต่อ แปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อช่วยดูดซับปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงที่ผลผลิตออกมาก โดย ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อ วงเงิน 1,500 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา MLR-1 หรือร้อยละ 4 ต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน วงเงินชดเชย 45,000,000 บาท โดย ธ.ก.ส. ประสานขอเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปีของกระทรวงการคลัง
2.6 สนับสนุนให้ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เก็บสต๊อกผลผลิต โดยสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ/หรือใช้วัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ให้สามารถรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรโดยไม่ต้องเร่งระบายผลผลิตและเก็บสต๊อกไว้ในรูปแบบชนิดเมล็ด เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดโดยไม่แทรกแซงกลไกตลาด วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตามมูลค่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เก็บสต๊อกไว้อัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาเก็บสต๊อก 60 – 120 วัน วงเงินชดเชย 15,000,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 ธันวาคม 2562