ในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. กนป. มีมติเห็นชอบการดำเนินการ 4 เรื่อง ดังนี้
มติ กนป.
เห็นชอบการปรับแก้ไขข้อความในสรุปมติการประชุม กนป. ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสามารถดำเนินการตามแผนส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบ ดังนี้
1.1.1 สรุปมติการประชุม กนป. ครั้งที่ 2/2562 (แก้ไขเพิ่มเติม) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 [คณะรัฐมนตรีมีมติ (18 มิถุนายน 2562) รับทราบ] แนวทางการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (เพิ่มเติม) แก้ไขจาก “ผู้ขายจัดส่งน้ำมันปาล์มดิบ ณ คลังน้ำมันปาล์มดิบ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใน 30 วัน (ปฏิทิน) หลังจากลงนามสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ...” เป็น “ผู้ขายจัดส่งน้ำมันปาล์มดิบ ณ คลังน้ำมันปาล์มดิบ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในระยะเวลาตามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบกับ กฟผ. ...”
1.1.2 สรุปมติการประชุม กนป. ครั้งที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 [คณะรัฐมนตรีมีมติ (27 สิงหาคม 2562) รับทราบ] การใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไฟฟ้า แก้ไขจาก “...ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน 2 สัปดาห์” เป็น “...ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว”
มติ กนป.
เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาการดำเนินการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ ตามมติ กนป. ครั้งที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 จากเดิม กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เป็น ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับจากวันที่กรมการค้าภายในได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์
มติ กนป.
1.3.1 เห็นชอบให้คงมาตรการบริหารการนำเข้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับภาษีในโควตาและ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งกำหนดให้องค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้าแต่เพียงผู้เดียว
1.3.2 เห็นชอบการทบทวนมาตรการบริหารการนำเข้าสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มนอกโควตา WTO สำหรับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มนอกโควตา WTO จากเดิม กำหนดให้ขึ้นทะเบียนเพียงครั้งเดียวโดยไม่กำหนดวันหมดอายุ เป็น กำหนดให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้ากับกรมการค้าต่างประเทศเป็นรายปี เพื่อให้สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะปัจจุบันของผู้นำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.3 มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
มติ กนป.
1.4.1 เห็นชอบกำหนดด่านนำเข้าและนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มฯ ดังนี้
1.4.1.1 ด่านนำเข้าสินค้าน้ำมันปาล์มฯ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านศุลกากรมาบตาพุด สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ และสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง
1.4.1.2 ด่านนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์ม ด่านต้นทาง 1 ด่าน คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ และกำหนดด่านปลายทางสำหรับการนำผ่านน้ำมันปาล์มฯ ไปยังแต่ละประเทศ ดังนี้ 1) กำหนดด่านศุลกากรจันทบุรี เป็นด่านปลายทางไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา 2) กำหนดด่านศุลกากรหนองคาย เป็นด่านปลายทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ 3) กำหนดด่านศุลกากรแม่สอดเป็นด่านปลายทางไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
1.4.2 มอบหมายกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ต่อไป
2. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นควรรับทราบตามที่ กนป. เสนอ เพื่อพิจารณามอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 มกราคม 2563