ขอความเห็นชอบแนวทางการปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการ

ข่าวการเมือง Tuesday January 28, 2020 18:26 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการจากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ในเบื้องต้นเฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พิจารณาดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลัง และจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณผ่านกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม และให้ถือว่าเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของเรื่อง

พม. รายงานว่า

1. พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้มีการจัดประชุมสมัชชาเครือข่ายคนพิการระดับภูมิภาคประจำปี พ.ศ. 2562 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการระดับจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และเครือข่ายคนพิการทั่วประเทศ พบว่า มีการเสนอแนวทางความเป็นไปได้ในการปรับเพิ่มเบี้ยความพิการในอัตราที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นของคนพิการแต่ละบุคคลเพื่อเป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานให้คนพิการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐมากยิ่งขึ้น นอกจากข้อเสนอจากการจัดสมัชชาคนพิการดังกล่าวแล้วพบว่า คนพิการจำนวนมากได้มีข้อเสนอและข้อร้องเรียนไปยัง Web Portal ระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลมีการปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการเพิ่มขึ้นในอัตราที่เหมาะสม

2. ต่อมา พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ได้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาแนวทางการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการโดยพบว่า การปรับเพิ่มเบี้ยความพิการจากปัจจุบัน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน มีความสอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน เพราะจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคนพิการได้ และไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มมากขึ้นจนเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของคนพิการที่ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 91.84) มีความต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนเบี้ยความพิการเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ จากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า คนพิการส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและมีฐานะยากจน โดยมีรายได้เฉลี่ยเพียงเดือนละ 4,326.52 บาท ถือว่าเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้คนพิการส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาและความยากลำบากในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการและจำเป็นของคนพิการในทุกประเภทความพิการ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการของประเทศไทยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่จำเป็นของคนพิการและส่งเสริมให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3. ปัจจุบันคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการมีจำนวน 2.02 ล้านคน (ข้อมูลจากฐานทะเบียนกลาง กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2562) ซึ่งการจ่ายสวัสดิการเบี้ยความพิการให้แก่คนพิการดังกล่าว หน่วยงานที่รับผิดชอบจะเป็นผู้จัดทำคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีอยู่แล้ว แต่ในส่วนที่ปรับอัตราเบี้ยความพิการเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือนในครั้งนี้ จะทำให้มีส่วนต่างจำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน (1,000 – 800) จึงทำให้ต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น จำนวน 4,852.90 ล้านบาท ดังนี้

จำนวนคนพิการ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ 2.02 (ล้านคน)

อัตราเบี้ยความพิการ(บาทต่อคนต่อเดือน)

เดิม 800

ปรับเพิ่ม 1,000

ส่วนต่าง 200

วงเงินงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม/ปี 4,852.90 (ล้านบาท)

จำนวนผู้พิการ ? เงินเบี้ยความพิการที่เพิ่มขึ้น ? 12 เดือน

2.02 ล้านคน ? 200 บาท ? 12 เดือน

4. ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการดังกล่าวแล้ว

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มกราคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ