ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ….

ข่าวการเมือง Tuesday February 11, 2020 16:47 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. (การปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2554)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

ทั้งนี้ ร่างระเบียบฯ ที่กระทรวงการคลังเสนอ เป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2554 เพื่อให้มีความเหมาะสมกับบริบทการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 ซึ่งการปรับปรุงระเบียบดังกล่าวจะมีผลทำให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งสามารถขอรับเงินอุดหนุนในการจัดทำบริการสาธารณะมีความชัดเจนขึ้น

สาระสำคัญของร่างระเบียบ

1. ปรับปรุงและเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “รัฐวิสาหกิจ” “บริการสาธารณะ” “เงินอุดหนุน” “ผลขาดทุน” “ต้นทุนการจัดทำบริการสาธารณะ” เพื่อให้มีความชัดเจน ซึ่งจะทำให้ขอบเขตของการให้บริการสาธารณะที่เข้าข่ายการขอรับเงินอุดหนุนฯ รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจด้วย

2. กำหนดวัตถุประสงค์ในการให้เงินอุดหนุนฯ ของรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจจัดทำบริการสาธารณะได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส โดยให้มีการกำกับและการประเมินผลการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินอุดหนุนฯ ตลอดระยะเวลาของการให้เงินอุดหนุนฯ รวมทั้งช่วยลดผลกระทบจากผลขาดทุนจากการจัดทำบริการสาธารณะให้แก่รัฐวิสาหกิจ และรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ

3. กำหนดให้การให้เงินอุดหนุนฯ ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐฯ และพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจฯ อย่างเคร่งครัด

4. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ โดยเพิ่มผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นกรรมการ และกำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ เช่น กำหนดรายละเอียดของข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนฯ บันทึกข้อตกลงการจัดทำบริการสาธารณะ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะ กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณและปันส่วนรายได้ที่ได้รับจากการให้บริการสาธารณะและต้นทุนการจัดทำบริการสาธารณะ และหลักเกณฑ์การจัดทำบัญชีการให้บริการสาธารณะที่ได้รับเงินอุดหนุนฯ เป็นการเฉพาะแยกจากการดำเนินงานปกติ และพิจารณาข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนฯ ข้อเสนอการขอปรับปรุงการจัดทำบริการสาธารณะ รายงานผลการให้บริการสาธารณะ และข้อเสนอการขอยุติการให้เงินอุดหนุนฯ

5. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่จะขอรับเงินอุดหนุนฯ จัดทำข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนฯ เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอคณะกรรมการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนฯ จะต้องระบุเหตุผลและความจำเป็น ขอบเขตและเป้าหมายของการจัดทำบริการสาธารณะ การกำหนดราคาหรือค่าธรรมเนียม ระยะเวลาและวงเงินอุดหนุนฯ ตลอดระยะเวลาการขอรับเงินอุดหนุนฯ เงื่อนไขการให้แรงจูงใจหรือผลตอบแทนเพิ่มเติม และอื่น ๆ เพื่อใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมในการให้เงินอุดหนุนฯ

6. กำหนดให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดทำบริการสาธารณะ โดยมีผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัด เป็นประธานกรรมการ และให้มีผู้แทนรัฐวิสาหกิจซึ่งมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุด เป็นกรรมการและเลขานุการ และกำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ เช่น พิจารณาให้ความเห็นต่อร่างบันทึกข้อตกลงการจัดทำบริการสาธารณะ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการจัดทำบริการสาธารณะให้เป็นไปตามที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงการจัดทำบริการสาธารณะ

7. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงการจัดทำบริการสาธารณะและเสนอกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอให้ปลัดกระทรวงเจ้าสังกัดและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจลงนามต่อไป

8. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่มีความประสงค์จะปรับปรุงการจัดทำบริการสาธารณะต้องจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงการจัดทำบริการสาธารณะ และเสนอกระทรวงเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะกรรมการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดต่อไป

9. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจหรือกระทรวงเจ้าสังกัดที่เห็นควรยุติการขอรับเงินอุดหนุนฯ ต้องจัดทำข้อเสนอการขอยุติการขอรับเงินอุดหนุนฯ และเสนอต่อกระทรวงเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะกรรมการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

10. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจจัดทำรายงานผลการให้บริการสาธารณะภายใน 2 เดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงการจัดทำบริการสาธารณะหรือตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด เพื่อให้กระทรวงเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะกรรมการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป และให้รัฐวิสาหกิจเปิดเผยสรุปผลการจัดทำบริการสาธารณะต่อสาธารณชนให้ทราบเป็นการทั่วไป

11. กำหนดบทเฉพาะกาล โดยกำหนดให้การดำเนินการให้เงินอุดหนุนฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ก่อนที่ร่างระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ แล้วดำเนินการตามร่างระเบียบฯ นี้

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ