คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
1. กำหนดระยะเวลาการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ขอรับใบอนุญาตภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดห้วงเวลาได้ (เดิม ภายใน 30 วัน) ให้สอดคล้องกับการดำเนินการตรวจสอบแหล่งทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและจำนวนของผู้ขอรับใบอนุญาต
2. กำหนดเงื่อนไขที่ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติ เช่น ต้องติดตั้งโคมไฟหรือเครื่องหมายบริเวณที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ชัดเจน ไม่ใช้สารเคมี ยา หรือสิ่งอื่นใดซึ่งทางราชการมีประกาศห้ามใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กำหนดให้มีการยกเว้นแก่ผู้รับใบอนุญาตไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้สำหรับสัตว์น้ำบางชนิด กรณีการเพาะเลี้ยงหอยทะเลไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการกำจัดหรือการป้องกันมิให้สัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงหลุดออกนอกที่เพาะเลี้ยง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของหอยทะเลซึ่งมีขนาดเล็กและไม่ลอยน้ำทำให้ไม่สามารถนำหอยทะเลหรือซากของหอยทะเลขึ้นมากำจัดบนบกอย่างถูกสุขลักษณะได้ และไม่สามารถป้องกันมิให้หอยหลุดออกพื้นที่เพาะเลี้ยงได้เช่นกัน
3. กำหนดหลักเกณฑ์การโอนใบอนุญาตซึ่งสามารถกระทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดเฉพาะการโอนให้บุพการี คู่สมรส หรือผู้สืบสันดานของผู้รับใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 44 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มีนาคม 2563