คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชนตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอดังนี้
มท. เสนอว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของประเทศไทยในภาพรวม โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการดำรงชีวิตของประชาชนทุกระดับ กระทรวงมหาดไทยจึงเห็นสมควรเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชนและเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชน ดังนี้
1. มาตรการด้านไฟฟ้า (การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
(1) มาตรการที่ 1 ลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 3 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2563) คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 5,160 ล้านบาท แบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคาดว่าจะใช้งบประมาณ 3,560 ล้านบาท โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานดำเนินการลดค่าไฟฟ้าในอัตราร้อยละ 3 และพิจารณาใช้เงินคืนรายได้ เพื่อให้การไฟฟ้ามีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนดมาเป็นแหล่งเงินในการสนับสนุนการลดค่าไฟฟ้า
(2) มาตรการที่ 2 ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการเฉพาะอย่าง (ธุรกิจโรงแรม และกิจการให้เช่าพักอาศัย) โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตลอดระยะเวลาการผ่อนผันโดยไม่มีการงดจ่ายไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว และผ่อนผันได้ไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิล สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้า ประจำเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่
(3) มาตรการที่ 3 การคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก รวม 22.17 ล้านราย วงเงิน 32,700 ล้านบาท แบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง จำนวน 3.87 ล้านราย วงเงิน 13,000 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 18.30 ล้านราย วงเงินประมาณ 19,700 ล้านบาท สามารถใช้สิทธิขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ตามขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ทั้งนี้ ผู้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์ พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อขอคืนเงินประกันผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะออกประกาศการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า โดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเร่งกำหนดแนวทางปฏิบัติและรายละเอียดในการดำเนินการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าต่อไป
2. มาตรการด้านน้ำประปา (การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค)
(1) มาตรการที่ 1 ลดค่าน้ำประปาในอัตราร้อยละ 3 ให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเมษายน – มิถุนายน 2563 คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 330 ล้านบาท แบ่งเป็น การประปานครหลวง 130 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 200 ล้านบาท
(2) มาตรการที่ 2 ขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา สำหรับผู้ใช้น้ำที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน ของแต่ละรอบใบแจ้งค่าน้ำประปา สำหรับรอบการใช้น้ำเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2563 รวม 30,900 ราย แบ่งเป็น การประปานครหลวง จำนวน 900 ราย และการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 30,000 ราย
(3) มาตรการที่ 3 คืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ 1 ที่พักอาศัย รวม 5.7 ล้านราย วงเงิน 2,834 ล้านบาท แบ่งเป็น การประปานครหลวง จำนวน 2 ล้านราย วงเงิน 1,034 ล้านบาท และ การประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 3.7 ล้านราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้วางเงินประกันการใช้น้ำสามารถตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์เพื่อขอคืนเงินประกันผ่านช่องทางต่าง ๆ
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มีนาคม 2563