คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ปี 2551 ณ วันที่ 10 มีนาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์น้ำ ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ผลกระทบด้านการเกษตร และ การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 10 มีนาคม 2551 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 48,370 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (52,983 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4,613 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 8,489 และ 5,394 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 63 และ 57 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 13,883 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปี 2550 (17,443 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,560 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 441 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (584 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 143 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 จำนวน 4 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 24,33,34 และ 39 ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับช่วงฤดูแล้งนี้
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ หนองค้อ มาบประชัน หนองกลางดง ชากนอก ห้วยขุนจิต และห้วยสะพาน มีปริมาตรน้ำรวม 75.36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่างฯ
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยอง มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ดอกกราย และ คลองใหญ่ มีปริมาตรน้ำรวม 148.28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำ 178.20 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯ
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤติ แนวโน้มลดลง และบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดตาก อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง และอำเภอสามเงา จังหวัดตากปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม บริเวณอำเภอสอง เมือง จังหวัดแพร่ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง เมือง จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอเมือง วังทอง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมือง บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอหล่มเก่า หล่มสัก เมือง วิเชียรบุรี หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชัยบาดาล วังม่วง จังหวัดสระบุรี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มทรงตัว
แม่น้ำชี บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำมูล บริเวณอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อำเภอลำปลายมาศ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอห้วยทับทัน ราศีไศล เมือง จังหวัดศรีษะเกษ อำเภอเขื่องใน เมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
3. คุณภาพน้ำ
สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา(0.17 กรัม/ลิตร)
แม่น้ำท่าจีน (0.161 กรัม/ลิตร) แม่น้ำแม่กลอง (0.062 กรัม/ลิตร) อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 6 มีนาคม 2551 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ( วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 — 30 เมษายน 2551)
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ณ วันที่ 4 มีนาคม 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 12.26 ล้านไร่ (95% ของพื้นที่คาดการณ์) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 10.14 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 1%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.12 ล้านไร่ (75%ของพื้นที่คาดการณ์) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 7.86 0.90 0.67 8.43 8.53
นอกเขตชลประทาน 2.50 2.28 1.90 1.45 4.40 3.73
รวม 10.03 10.14 2.80 2.12 12.83 12.26
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 - 7 มีนาคม 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แพร่ ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว กาญจนบุรี เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 13,073 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 164,261 ไร่ แยกเป็น ข้าว 125,302 ไร่ พืชไร่ 37,384 ไร่ และพืชสวน 1,575 ไร่
จังหวัดแพร่ นครนายก และฉะเชิงเทรา ได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ทำให้พื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 37,518 ไร่ คงเหลือพื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 126,743 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 1 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสุโขทัย เกษตรกรประสบภัย 75 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 2,701 ตัว แยกเป็นโค 1,618 ตัว และ แพะ 1,083 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว 52 จังหวัด จำนวน 778 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 249 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 302 เครื่อง ภาคกลาง 10 จังหวัด จำนวน 95 เครื่อง ภาคตะวันออก 4 จังหวัด จำนวน 55 เครื่อง ภาคตะวันตก 4 จังหวัด จำนวน 48 เครื่อง และภาคใต้ 1 จังหวัด จำนวน 29 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และสวนผลไม้ในภาคตะวันออก จำนวน 16 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 14 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 12,246 ลูกบาศก์เมตร
2. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 6 มีนาคม 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 6 ศูนย์ ( 6 หน่วยปฏิบัติการ) ได้แก่ ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯพิษณุโลก ภาคกลาง หน่วยฯนครสวรรค์ ภาคตะวันออก หน่วยฯระยอง ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯหัวหิน และภาคใต้ หน่วยฯสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย(ต่ำกว่า 30% ของความจุอ่างฯ) คือ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ และการบรรเทาปัญหามลภาวะในภาคเหนือ
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 6 มีนาคม ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 30 วัน 322 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 158 สถานี ในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 มีนาคม 2551--จบ--
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 10 มีนาคม 2551 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 48,370 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (52,983 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4,613 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 8,489 และ 5,394 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 63 และ 57 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 13,883 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปี 2550 (17,443 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,560 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 441 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (584 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 143 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 จำนวน 4 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 24,33,34 และ 39 ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับช่วงฤดูแล้งนี้
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ หนองค้อ มาบประชัน หนองกลางดง ชากนอก ห้วยขุนจิต และห้วยสะพาน มีปริมาตรน้ำรวม 75.36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่างฯ
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยอง มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ดอกกราย และ คลองใหญ่ มีปริมาตรน้ำรวม 148.28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำ 178.20 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯ
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤติ แนวโน้มลดลง และบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดตาก อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง และอำเภอสามเงา จังหวัดตากปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม บริเวณอำเภอสอง เมือง จังหวัดแพร่ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง เมือง จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอเมือง วังทอง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมือง บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอหล่มเก่า หล่มสัก เมือง วิเชียรบุรี หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชัยบาดาล วังม่วง จังหวัดสระบุรี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มทรงตัว
แม่น้ำชี บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำมูล บริเวณอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อำเภอลำปลายมาศ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอห้วยทับทัน ราศีไศล เมือง จังหวัดศรีษะเกษ อำเภอเขื่องใน เมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
3. คุณภาพน้ำ
สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา(0.17 กรัม/ลิตร)
แม่น้ำท่าจีน (0.161 กรัม/ลิตร) แม่น้ำแม่กลอง (0.062 กรัม/ลิตร) อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 6 มีนาคม 2551 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ( วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 — 30 เมษายน 2551)
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ณ วันที่ 4 มีนาคม 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 12.26 ล้านไร่ (95% ของพื้นที่คาดการณ์) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 10.14 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 1%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.12 ล้านไร่ (75%ของพื้นที่คาดการณ์) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 7.86 0.90 0.67 8.43 8.53
นอกเขตชลประทาน 2.50 2.28 1.90 1.45 4.40 3.73
รวม 10.03 10.14 2.80 2.12 12.83 12.26
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 - 7 มีนาคม 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แพร่ ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว กาญจนบุรี เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 13,073 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 164,261 ไร่ แยกเป็น ข้าว 125,302 ไร่ พืชไร่ 37,384 ไร่ และพืชสวน 1,575 ไร่
จังหวัดแพร่ นครนายก และฉะเชิงเทรา ได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ทำให้พื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 37,518 ไร่ คงเหลือพื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 126,743 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 1 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสุโขทัย เกษตรกรประสบภัย 75 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 2,701 ตัว แยกเป็นโค 1,618 ตัว และ แพะ 1,083 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว 52 จังหวัด จำนวน 778 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 249 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 302 เครื่อง ภาคกลาง 10 จังหวัด จำนวน 95 เครื่อง ภาคตะวันออก 4 จังหวัด จำนวน 55 เครื่อง ภาคตะวันตก 4 จังหวัด จำนวน 48 เครื่อง และภาคใต้ 1 จังหวัด จำนวน 29 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และสวนผลไม้ในภาคตะวันออก จำนวน 16 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 14 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 12,246 ลูกบาศก์เมตร
2. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 6 มีนาคม 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 6 ศูนย์ ( 6 หน่วยปฏิบัติการ) ได้แก่ ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯพิษณุโลก ภาคกลาง หน่วยฯนครสวรรค์ ภาคตะวันออก หน่วยฯระยอง ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯหัวหิน และภาคใต้ หน่วยฯสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย(ต่ำกว่า 30% ของความจุอ่างฯ) คือ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ และการบรรเทาปัญหามลภาวะในภาคเหนือ
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 6 มีนาคม ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 30 วัน 322 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 158 สถานี ในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 มีนาคม 2551--จบ--