1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยกฐานะศาลแขวงนครไทย ศาลแขวงพยัคฆภูมิพิสัย และศาลแขวงเวียงป่าเป้า เป็นศาลจังหวัด พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
3. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และคณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างหน่วยงานและระบบค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
1. กำหนดให้ยกฐานะศาลแขวงนครไทย ศาลแขวงพยัคฆภูมิพิสัยและศาลแขวงเวียงป่าเป้า เป็นศาลจังหวัด และจะเปิดทำการเป็นศาลจังหวัดเมื่อใดให้ประกาศโดยพระราชกฤษฎีกา
2. กำหนดให้ศาลจังหวัดนครไทยมีเขตตลอดท้องที่อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย ในจังหวัดพิษณุโลก โดยในระหว่างที่ยังไม่เปิดทำการศาลจังหวัดนครไทย ให้ศาลจังหวัดพิษณุโลกมีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทยด้วย
3. กำหนดให้ศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัยมีเขตตลอดท้องที่อำเภอนาเชือก อำเภอนาดูน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอยางสีสุราช ในจังหวัดมหาสารคาม โดยในระหว่างที่ยังไม่เปิดทำการศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัย ให้ศาลจังหวัดมหาสารคามมีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอนาเชือก อำเภอนาดูน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอยางสีสุราชด้วย
4. กำหนดให้ศาลจังหวัดเวียงป่าเป้ามีเขตตลอดท้องที่อำเภอแม่สรวยและอำเภอเวียงป่าเป้า ในจังหวัดเชียงราย โดยในระหว่างที่ยังไม่เปิดทำการศาลจังหวัดเวียงป่าเป้า ให้ศาลจังหวัดเชียงรายมีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอแม่สรวยและอำเภอเวียงป่าเป้าด้วย
5. กำหนดให้บรรดาคดีของท้องที่อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดพิษณุโลกในวันเปิดทำการศาลจังหวัดนครไทย ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดพิษณุโลก ส่วนคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดพิษณุโลก สาขานครไทย ก่อนวันเปิดทำการศาลจังหวัดนครไทย ให้โอนไปพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดนครไทย สำหรับบรรดาคดีของท้องที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกมีคำสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทำการศาลจังหวัดนครไทย ให้ศาลจังหวัดพิษณุโลกมีอำนาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้นต่อไป ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และให้ถือว่าผู้ต้องหานั้นอยู่ในอำนาจของศาลที่ชำระคดีดังกล่าว
6. กำหนดให้บรรดาคดีของท้องที่อำเภอนาเชือก อำเภอนาดูน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอยางสีสุราช ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดมหาสารคามในวันเปิดทำการศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัย ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดมหาสารคาม ส่วนคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ก่อนวันเปิดทำการศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัย ให้โอนไปพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัย สำหรับบรรดาคดีของท้องที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลจังหวัดมหาสารคามมีคำสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทำการศาลจังหวัดพยัคฆภูมิพิสัย ให้ศาลจังหวัดมหาสารคามมีอำนาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้นต่อไป ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และให้ถือว่าผู้ต้องหานั้นอยู่ในอำนาจของศาลที่ชำระคดีดังกล่าว
7. กำหนดให้บรรดาคดีของท้องที่อำเภอแม่สรวยและอำเภอเวียงป่าเป้า ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดเชียงรายในวันเปิดทำการศาลจังหวัดเวียงป่าเป้า ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดเชียงราย ส่วนคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ก่อนวันเปิดทำการศาลจังหวัดเวียงป่าเป้า ให้โอนไปพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลจังหวัดเวียงป่าเป้า สำหรับบรรดาคดีของท้องที่ตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทำการศาลจังหวัดเวียงป่าเป้า ให้ศาลจังหวัดเชียงรายมีอำนาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้นต่อไป ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และให้ถือว่าผู้ต้องหานั้นอยู่ในอำนาจของศาลที่ชำระคดีดังกล่าว
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 มีนาคม 2563