คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอ ให้สิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้าแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 หรือเหรียญราชการชายแดน หรือเหรียญอื่นที่เทียบเท่า ที่มีคุณสมบัติเป็นทหารผ่านศึกและได้รับบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 3 แล้วเท่านั้น จำนวน 102,000 ราย ได้รับสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้าโดยการจัดกลุ่มผู้มีสิทธิ ดังนี้
1. กลุ่มผู้ถือบัตรชั้นที่ 3 ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จำนวน 41,177 ราย ให้ได้รับสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้า รายละ 45 หน่วยต่อเดือน
2. กลุ่มผู้ถือบัตรชั้นที่ 3 ที่มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อปี จำนวน 60,823 ราย ให้ได้รับสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้า รายละ 40 หน่วยต่อเดือน
ทั้งนี้ การให้สิทธิพิเศษดังกล่าวควรมีการตรวจสอบจำนวนผู้มีสิทธิให้มีความถูกต้องชัดเจนตามจำนวนที่มีอยู่จริง และไม่ซ้ำซ้อนกับผู้มีสิทธิตามมาตรการหรือโครงการสวัสดิการอื่นของรัฐ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) มาดำเนินการเพื่อการดังกล่าว หากไม่เพียงพอ ให้นำเงินนอกงบประมาณมาสมทบ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้พิจารณาใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณเป็นลำดับแรก และหากไม่เพียงพอ เห็นควรให้เสนอขอจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกที่จะได้รับอุดหนุนจากรัฐบาล ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (สงป.)
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นั้น กห. (อผศ.) ได้พิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและความเห็นของ สงป. โดยพิจารณาประเภทการสงเคราะห์ตามสิทธิที่พึงได้รับลดหลั่นตามชั้นบัตร เช่นเดียวกับแนวทางการให้การสงเคราะห์ประเภทอื่น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำซึ่งสิทธิที่พึงจะได้รับจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันตามประเภทการสงเคราะห์และพิจารณา การจัดลำดับ หรือกลุ่มผู้ถือบัตรตามฐานรายได้ที่ได้รับในการให้สิทธิพิเศษ ซึ่งในการประชุมสภาทหารผ่านศึก ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบการขอสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้าให้แก่ทหารผ่านศึกกลุ่มถือบัตรชั้นที่ 3 สรุปได้ ดังนี้
1.1 กลุ่มผู้ถือบัตรชั้นที่ 3 ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จำนวน 41,177 ราย ให้ได้รับสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้า รายละ 45 หน่วยต่อเดือน ใช้งบประมาณจำนวน 74.27 ล้านบาทต่อปี
1.2 กลุ่มผู้ถือบัตรชั้นที่ 3 ที่มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อปี จำนวน 60,823 ราย ให้ได้รับสิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้า รายละ 40 หน่วยต่อเดือน ใช้งบประมาณจำนวน 97.51 ล้านบาทต่อปี รวมงบประมาณที่ต้องใช้เป็นเงินจำนวน 171.78 ล้านบาทต่อปี และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
2. รายละเอียดในการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
ขั้นตอนในการดำเนินการ
1) เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้สิทธิพิเศษลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ทหารผ่าน ศึกฯ จะต้องยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองการเป็นทหารผ่านศึกจาก อผศ. ก่อน เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้มีสิทธิพิเศษตาม มติคณะรัฐมนตรีจริง
2) จากนั้นทหารผ่านศึกฯ จึงนำหนังสือรับรองดังกล่าวไปแสดงกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
3) เมื่อ กฟน. หรือ กฟภ. ได้รับหนังสือรับรองแล้ว จึงจะให้สิทธิพิเศษลดหย่อน ค่ากระแสไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไป
4) สำหรับการเรียกชำระเงินค่าชดเชยส่วนลดหย่อนค่ากระแสไฟฟ้านั้น กฟน. หรือ กฟภ. จะมีหนังสือเรียกเก็บจาก อผศ. ในแต่ละเดือน
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1) ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวของทหารผ่านศึกฯ อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิต
2) ทำให้ทหารผ่านศึกฯ ได้ตระหนักถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญแก่ทหารผ่านศึกผู้ที่เคยกระทำคุณงามความดีเพื่อปกป้องอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยของประเทศมาแล้ว
3) ส่งเสริมให้สังคมได้มีส่วนร่วมในการยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ทหารผ่านศึก
หมายเหตุ อผศ. แบ่งประเภทบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกฯ เป็น 4 ชั้นบัตร ดังนี้
บัตรชั้นที่ 1 ออกให้แก่ ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีด้วยความกล้าหาญ เหรียญดุษฎีมาลาเข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ ทหารผ่านศึกฯ ที่พิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ และครอบครัวทหารผ่านศึก บัตรชั้นที่ 1 (ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่)
บัตรชั้นที่ 2 ออกให้แก่ ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1 เหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรป หรือเหรียญอื่นที่เทียบเท่า
บัตรชั้นที่ 3 ออกให้แก่ ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เหรียญราชการเขตภายใน เหรียญราชการชายแดน เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 หรือเหรียญอื่นที่เทียบเท่า และต้องมีระยะเวลาการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 8 เดือน
บัตรชั้นที่ 4 ออกให้แก่ ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานเหรียญใด ๆ และต้องมีระยะเวลาการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 8 เดือน ซึ่งปัจจุบันมีทหารผ่านศึกฯ จำนวนประมาณ 646,674 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2562)
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 เมษายน 2563