1. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักข่าวกรองแห่งชาติ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายศรายุธ ทองกูล นักการข่าวเชี่ยวชาญ กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบันหลัก (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (กระทรวงมหาดไทย)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. ให้นายกอบชัย บุญอรณะ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอองระดับสูง) จังหวัดชัยภูมิ สำนักงานปลัดกระทรวง
2. ให้นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดภูเก็ต สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอองระดับสูง) จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง
3. ให้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดชัยภูมิ สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอองระดับสูง) จังหวัดภูเก็ต สำนักงานปลัดกระทรวง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
4. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวม 6 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ดังนี้
1. นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ประธานกรรมการ
2. นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์)
3. นางอุษา กลิ่นหอม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการเกษตร)
4. นายธีระ พุ่มเสนาะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารจัดการ)
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทวี วัชระเกียรติศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการวิจัยและกระบวนการเรียนรู้)
6. นายเสถียร ใจคำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการพัฒนาชุมชนและเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียง)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
5. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ชุดใหม่ รวม 6 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิม ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ดังนี้
1. นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการ
2. นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการเกษตร)
3. นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี/นวัตกรรม) 4. นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉายกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการพาณิชย์/อุตสาหกรรม)
5. นางจิราวรรณ แย้มประยูร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหาร/การเงิน)
6. นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการกฎหมาย)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
6. เรื่อง แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง จำนวน 4 คน แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์และลาออก ดังนี้
1. นายจำเริญ โพธิยอด (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) กรรมการ
2. พลเอก สิงห์ทอง หมีทอง กรรมการ
3. นายวรายุทธ เย็นบำรุงกรรมการ
4. นายชัยทัต แซ่ตั้งกรรมการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
7. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
1. รับทราบกรณี นายสุภกร บัวสาย พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการสภาการศึกษา เนื่องจากลาออก
2. เห็นชอบแต่งตั้ง นายนิติ นาชิต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (ตามข้อ 1.)
โดยให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และในครั้งต่อ ๆ ไปให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาการศึกษาให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
8. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 112/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 112/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจในทุกพื้นที่ของประเทศ ทั้งในด้านการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและหนี้สิ้น การขาดรายได้ การถูกเลิกจ้าง และการปิดกิจการชั่วคราว ส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างรุนแรง รัฐบาลจึงได้จัดให้มีมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 1 – 3 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะมาตรการชดเชยรายได้แก่แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายหลากหลายอาชีพทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ตลอดจนให้กลุ่มเป้าหมายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทั่วถึง เป็นธรรม โดยเร็ว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
1. องค์ประกอบ
1.1 ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ
1.2 ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ
1.3 ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากรรมการ
1.4 ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรรมการ
1.5 ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กรรมการ
1.6 ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ
1.7 ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ
1.8 ปลัดกระทรวงแรงงาน กรรมการ
1.9 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กรรมการ
1.10 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกรรมการ
1.11 ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ
1.12 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรรมการและเลขานุการ
2. หน้าที่และอำนาจ
2.1 ติดตาม รวบรวม และบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน
2.2 ตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐต่าง ๆ
2.3 นำผลการดำเนินการตามข้อ 2.1 และ 2.2 มาวิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อให้ การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความครอบคลุม ทั่วถึงและเป็นธรรม
2.4 กำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินมาตรการชดเชยรายได้ฯ ให้เป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส รวมทั้งเสนอแนะกลไกและขั้นตอนการดำเนินงานที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างแท้จริง ต่อนายกรัฐมนตรี หรือศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2563 เรื่อง การจัดโครงการสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563
2.5 ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงและรายงานข้อมูล รวมทั้งจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการ
2.6 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคล เพื่อช่วยปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
2.7 ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 หรือตามระเบียบทางราชการ แล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 เมษายน 2563