คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามผลการหารือระหว่างรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และปลัดกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 กรณีการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำสั่งศาลตามกฎหมายล้มละลาย และให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง นั้น รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และปลัดกระกระทรวงการคลังแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 มีความเห็นร่วมกันว่า
1. ในขณะที่คณะรัฐมนตรีมีมติเรื่องนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังคงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจและอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม แต่บัดนี้ กระทรวงการคลังได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ จึงทำให้ บริษัทฯ พ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจแล้วโดยเด็ดขาด เพียงแต่กระทรวงการคลังยังคงถือหุ้นจำนวนมากประมาณร้อยละ 48 ส่วนภารกิจที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมให้บริษัทฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และดูแลให้บริษัทฯ ตรวจสอบ จัดเตรียมเอกสารและแนวทางที่เกี่ยวข้องนั้น กระทรวงคมนาคมได้มอบให้บริษัทฯ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปแล้ว
2. ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) แล้ว ซึ่งจากการหารือเห็นชอบให้มีคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และผู้ทรงคุณวุฒิ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 143/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ส่วนการติดตามดูแลกิจการของบริษัทฯ ตามสัดส่วนของหุ้นย่อมอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง และการประสานงานกับกระทรวงคมนาคม บริษัทฯ ก็สามารถดำเนินการได้โดยตรงอยู่แล้วหรืออาจใช้ช่องทางคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ก็ได้
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำสั่งศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 และให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รับไปดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจและความเห็นของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง นั้น
แม้ผลจากการนี้จะทำให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาด และกระบวนการฟื้นฟูกิจการจะเป็นไปตามขั้นตอนและอยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมายโดยเฉพาะก็ตาม แต่โดยที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการประกอบกิจการของบริษัทซึ่งยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ เกี่ยวพันกับกฎหมายและกฎระเบียบของทางราชการ อันต้องอาศัยการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ และการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ และรัฐยังจำเป็นต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ คณะรัฐมนตรีจึงควรมีโอกาสรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการเป็นระยะ ๆ โดยมีระบบกลั่นกรอง และช่วยตรวจสอบในส่วนของภาครัฐ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้มีคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย
(1) นายวิษณุ เครืองาม ประธานรองนายกรัฐมนตรี
(2) นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการ
(3) นายประสงค์ พูนธเนศ กรรมการปลัดกระทรวงการคลัง
(4) นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ กรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม
(5) นายชยธรรม์ พรหมศร กรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร
(6) นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ กรรมการปลัดกระทรวงยุติธรรม
(7) นายปกรณ์ นิลประพันธ์ กรรมการเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
(8) นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(9) นายประภาศ คงเอียด กรรมการและเลขานุการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
ข้อ 2 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจดังนี้
(1) เป็นตัวแทนภาครัฐในการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำสั่งศาลและการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน
(2) ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ แก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของภาครัฐโดยไม่เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาของศาล
(3) กลั่นกรอง ตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกหรือประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์แก่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และการดำเนินกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามที่มีการร้องขอ และไม่ขัดต่อกฎหมาย
(4) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
(5) รายงานการปฏิบัติงานพร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ
ข้อ 3 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติงานเฉพาะเรื่องได้
ให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานได้รับเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 พฤษภาคม 2563