คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือ การถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
1. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-2019) ได้ แพร่ระบาดในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนทำให้ประเทศไทยต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งระหว่างประเทศในภาพรวม และเป็นเหตุให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักร ไม่สามารถนำของที่นำเข้ามาเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไป นอกราชอาณาจักรได้ภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบใน ด้านการปฏิบัติพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับการนำของเข้ามาเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักรในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-2019) จึงสมควรกำหนดให้ผู้นำของ เข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือ แต่บางส่วน
2. โดยที่มาตรา 6 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 บัญญัติให้ในกรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยจะกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติไว้ด้วยก็ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการยกเว้นให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกเป็นกฎกระทรวง
จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
กำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “พฤติการณ์พิเศษ” หมายความว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-2019) จนเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถส่งของนำเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรได้
2. กำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ในกรณีดังต่อไปนี้
2.1 กรณีที่การนำของที่นำเข้ามาเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไป นอกราชอาณาจักรที่กำหนดให้กระทำภายในสามสิบวันนับแต่วันที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 102 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
2.2 กรณีที่ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำไม่นำของออกไปนอกราชอาณาจักรภายในระยะเวลาตามมาตรา 102 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 หรือขอเปลี่ยนการผ่านพิธีการศุลกากรเป็นการนำเข้าและได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ แต่ไม่เสียอากรหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ของนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
2.3 กำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักร ยื่นหนังสือขอขยายระยะเวลาเพื่อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 2.1 และ ข้อ 2.2 พร้อมแสดงเหตุผลแห่งพฤติการณ์พิเศษ และเอกสารหลักฐานประกอบ ต่อกรมศุลกากร โดยกำหนดให้อธิบดีกรมศุลกากรขยายระยะเวลาการนำของ ที่นำเข้ามาเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น
3. กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มิถุนายน 2563