ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2563 และ ครั้งที่ 6/2563

ข่าวการเมือง Tuesday June 16, 2020 17:56 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2563 และครั้งที่ 6/2563 ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ที่ได้มีการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกำหนดแนวทางการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ตามพระราชกำหนด เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 8(1) และ 8(2) แห่งพระราชกำหนด ดังนี้

1. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง โดยจ่ายเงินเยียวยาผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 1,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน (เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2563) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากโครงการใด ๆ ของภาครัฐในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1,164,222 คน รวมเป็นเงิน 3,000 บาทต่อคน วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 3,492,666,000 บาท

2. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รับไปพิจารณากำหนดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ ของภาครัฐ จากข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยากลุ่มผู้ตกหล่นที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ ของภาครัฐสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมในคราวเดียวกัน พร้อมทั้งจัดทำข้อมูลคุณลักษณะของกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการฯ พิจารณาได้ภายใน 1 เดือน

3. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มเติมกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรภายใต้โครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้รวมถึงเกษตรกรที่ด้อยโอกาสและยังไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร จำนวน 137,093 ราย เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นไปอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังอยู่ภายใต้กรอบวงเงินและจำนวนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายรวมไม่เกิน 10 ล้านราย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563

4. เห็นชอบในหลักการของการขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการลงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 จำนวนประมาณ 120,000 และเร่งตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการของกรมบัญชีกลางและระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม รวมทั้ง มาตรการอื่นใดของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะกรรมการฯ ให้แล้วเสร็จก่อนเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

5. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการจ่ายเงินเยียวยาโดยตรงรายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เพิ่มเติมจากเบี้ยความพิการ และเพิ่มเติมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 รวมทั้งหมด 6,781,881 คน ประกอบด้วย (1) เด็กจากครัวเรือนยากจน (0-6 ปี) จำนวน1,394,756 คน (2) สูงอายุจำนวน 4,056,596 คน และ (3) ผู้พิการจำนวน 1,330,529 คน กรอบวงเงินไม่เกิน 20,345,643,000 บาท

6. เห็นชอบในหลักการของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชนรวมถึงการลงทุนต่าง ๆ ของภาคเอกชน เพื่อให้สภาวะการบริโภคและการลงทุนกลับเข้าสู่ระดับปกติได้โดยเร็วตามบัญชีท้ายพระราชกำหนด โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม 2563 รวม 4 เดือน กรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการสร้างความชัดเจนของการดำเนินงานตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการฯ และนำเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่งภายใน 2 สัปดาห์

7. มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการประสานกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อพิจารณาข้อเสนอโครงการจากภาคประชาชนและประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอโครงการขององค์กรภาคประชาชนผ่านหน่วยงานของรัฐที่เหมาะสมตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ต่อไป

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มิถุนายน 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ