การปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

ข่าวการเมือง Tuesday June 30, 2020 18:13 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2563 ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ กค. รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สาระสำคัญของร่างประกาศ

1. กำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

2. กำหนดให้ยกเลิกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

3. กำหนดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราดังต่อไปนี้

3.1 ร้อยละ 0.125 ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน สำหรับการนำส่งเงินในปี 2563 – 2564

3.2 ร้อยละ 0.25 ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน สำหรับการนำส่งเงินในปี 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กค. เสนอว่า

1) ตามที่ได้มีประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560 กำหนดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2558 ที่บัญญัติให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธอส. และ ธอท. มีหน้าที่ต้องนำเงินส่งเข้ากองทุนตามอัตราที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

2) โดยที่ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการดำเนินมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อย่างเต็มที่ จึงสมควรปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามประกาศกระทรวงการคลังในข้อ 1. จากเดิมอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นอัตราร้อยละ 0.125 ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นระยะเวลา 2 ปี ในรอบปี 2563 – 2564 และอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

3) คณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2563 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 จึงได้พิจารณาและมีมติ ดังนี้

3.1) เห็นชอบการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธอส. และ ธอท. โดยปรับลดอัตราเงินนำส่งลงกึ่งหนึ่งคือจากร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.125 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี สำหรับการนำส่งเงินในรอบปี 2563 – 2564 รวม 4 งวด โดยเริ่มตั้งแต่งวดที่ 1 ปี 2563 ซึ่งสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่ง จะต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในเดือนสิงหาคม ปี 2563 (คำนวณจากยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2563)

3.2) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 2563 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินลงกึ่งหนึ่งให้กับธนาคารพาณิชย์ เป็นเวลา 2 ปี สำหรับการนำส่งเงินในรอบปี 2563 – 2564

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มิถุนายน 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ