คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ตามข้อ 7 (2) แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 แก่บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 9/2546/66 เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเป็นผู้ยื่นขออนุญาตทำประโยชน์ใน เขตป่าเพื่อการสำรวจ ผลิต เก็บรักษา ขนส่ง หรือกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมต่อกรมป่าไม้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และให้ พน. รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เดิมคณะรัฐมนตรีมีมติ (29 กรกฎาคม 2546) อนุมัติให้สัมปทานปิโตรเลียมแก่ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L15/43 และ L27/43 โดยกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการออกสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 9/2546/66 เพื่อสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแล้ว เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2546 และต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติ (14 กุมภาพันธ์ 2549) อนุมัติให้บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะตามสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดของสัมปทานรวม 2 แปลงสำรวจ ให้แก่บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานแต่เพียงผู้เดียว โดยในปัจจุบันบริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ได้ดำเนินการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่สัมปทานครบถ้วนตามข้อผูกพันที่มีต่อรัฐในช่วงระยะเวลาสำรวจปิโตรเลียมแล้ว และได้เข้าสู่ ช่วงระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม 20 ปี ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการดำเนินการผลิตปิโตรเลียมตามสัมปทานดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากจะต้องขออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าเพื่อการสำรวจปิโตรเลียม การผลิตปิโตรเลียม การเก็บรักษา การขนส่ง หรือกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมก่อน
บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 9/2546/66 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L15/43 ประสงค์ขออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า เพื่อการสำรวจปิโตรเลียม การผลิตปิโตรเลียม การเก็บรักษา การขนส่ง หรือกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม แต่เนื่องจากบริษัทฯ มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์ข้อ 7 (2) แห่งกฎกระทรวงฯ ดังนี้
กฎกระทรวงฯ
บริษัทฯ เป็นไปตามหลักเกณฑ์
กรณีผู้ขออนุญาตเป็นนิติบุคคลซึ่งไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ นิติบุคคลนั้นต้องจดทะเบียนในประเทศไทย
ขอยกเว้นหลักเกณฑ์
ผู้ขออนุญาตที่เป็นนิติบุคคลต้องไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าวโดยเฉพาะหรือเป็นส่วนใหญ่
ในกรณีที่นิติบุคคลนั้นมีผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนของนิติบุคคลนั้นต้องมีสัญชาติไทยเกินสองในสามของจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วน โดยต้องถือหุ้นเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคลที่ขออนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 7 (1) คือ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์หรือบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย มีสัญชาติไทย ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด
บริษัทฯ เป็นไปตามหลักเกณฑ์
เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนจัดตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทย
ขอยกเว้นหลักเกณฑ์
ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นนิติบุคคลต่างด้าวทั้งหมด (ร้อยละ 100)
ผู้ถือหุ้นเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาและบุคคลธรรมดาสัญชาติอเมริกัน
กรรมการของบริษัทมี 3 คน โดยกำหนดเงื่อนไขจำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้ คือ กรรมการหนึ่งคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท โดยเป็นผู้มีสัญชาติไทย 2 ราย อายุ 44 และ 46 ปี และสัญชาติอินโดนีเซีย 1 ราย อายุ 59 ปี
บริษัทฯ จึงยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ) เพื่อเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์ตามที่กฎกระทรวงกำหนดได้ ในกรณีที่เห็นว่าการอนุญาตดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาแล้วเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์ตามข้อ 7 (2) แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 ให้บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด สามารถเป็นผู้ยื่นขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าต่อกรมป่าไม้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ผู้ขออนุญาตจะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าตามกฎกระทรวงฯ ก่อนที่จะดำเนินการในพื้นที่ป่าและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กันยายน 2563