คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท และให้ดำเนินการต่อไปตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
1. แนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยดำเนินการในลักษณะงบกลางเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการโดยแบ่งการจัดสรรออกเป็น
1.1 เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 17,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 11,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับภาวะปกติ แต่ปัจจุบันปัจจัยทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเกิดธรณีพิบัติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ก่อความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ ดังนั้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายโดยเร็ว ตลอดจนเพื่อจัดเตรียมไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เร่งด่วนจำเป็นอื่นๆ จึงเห็นควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ จำนวน 17,000 ล้านบาท
1.2 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ จำนวน 15,000 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรเพื่อไปดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศในบางภารกิจยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนบางกิจกรรมเพื่อให้สามารถสอดรับกับความต้องการของจังหวัดแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการสามารถพัฒนาจังหวัดของตนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดปี 2548 จึงเห็นควรสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการเพื่อไปดำเนินการตามแผนดังกล่าวเป็นจำนวน 20,000 ล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้จัดสรรงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศส่วนหนึ่งให้แล้ว จำนวน 5,000 ล้านบาท จึงจัดสรรเพิ่มให้อีก จำนวน 15,000 ล้านบาท
1.3 ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน (SML) จำนวน 9,400 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการสร้างความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของประชาชน เพื่อพลิกฟื้นหมู่บ้านให้มีพลังขับเคลื่อนสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์ความคิดและนำไปสู่การปฏิบัติในการสร้างปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เพื่อการดำรงชีพและการมีอาชีพของประชาชนโดยส่วนรวมตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งเป็นการพัฒนารูปแบบและระบบในการเตรียมความพร้อมของประชาชนและชุมชนเพื่อรองรับการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นที่เต็มรูปแบบในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รัฐบาลได้ดำเนินการโครงการนำร่องหมู่บ้านและชุมชนต้นแบบทั้งสิ้น 1,002 แห่ง ประกอบด้วย หมู่บ้าน 876 แห่ง และชุมชน 126 แห่ง เป็นเงิน 250 ล้านบาท สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เห็นควรที่จะดำเนินการประมาณ 38,250 แห่ง วงเงินประมาณ 9,400 ล้านบาท
1.4 ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนและความยากจนของประชาชน จำนวน 4,000 ล้านบาท ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นวาระแห่งชาติโดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการแก้ไขความยากจนให้หมดไปภายในปี 2551 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่มาจดทะเบียนปัญหา จำนวน 8.04 ล้านคน ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสภาพข้อเท็จจริงของปัญหา สำหรับแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 คาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 13,526.8 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรแล้ว 8,038.7 ล้านบาท คงเหลือที่จะต้องใช้เงินอีกประมาณ 5,488.1 ล้านบาท เนื่องจากมีระยะเวลาการใช้งบประมาณเพียง 4 เดือน จึงจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนประมาณ 4,000 ล้านบาท
1.5 เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จำนวน 4,600 ล้านบาท เพื่อคงสัดส่วนรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาลที่ร้อยละ 23.5 ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้วยพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รัฐได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว จำนวน 110,610.7 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีก 4,603.1 ล้านบาท หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยตั้งไว้ที่งบกลางรายการเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
2. ระยะเวลาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ทันต่อความจำเป็นในการใช้จ่ายจึงกำหนดให้การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 เป็นวันที่ 20 เมษายน 2548 วาระที่ 2 วันที่ 25 เมษายน 2548 วาระที่ 3 วันที่ 4 พฤษภาคม 2548 และการพิจารณาของวุฒิสภาวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาการเปิดประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติของรัฐสภา และหากดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2548
3. ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... พร้อมเอกสารงบประมาณประกอบร่างพระราชบัญญัติ โดยมีรายละเอียดตามแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ในข้อ 1 ซึ่งได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
4. แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของสำนักงบประมาณเพื่อประกอบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. ....
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 เมษายน 2548--จบ--
1. แนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยดำเนินการในลักษณะงบกลางเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการโดยแบ่งการจัดสรรออกเป็น
1.1 เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 17,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 11,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับภาวะปกติ แต่ปัจจุบันปัจจัยทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเกิดธรณีพิบัติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ก่อความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ ดังนั้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายโดยเร็ว ตลอดจนเพื่อจัดเตรียมไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เร่งด่วนจำเป็นอื่นๆ จึงเห็นควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ จำนวน 17,000 ล้านบาท
1.2 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ จำนวน 15,000 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรเพื่อไปดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศในบางภารกิจยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนบางกิจกรรมเพื่อให้สามารถสอดรับกับความต้องการของจังหวัดแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการสามารถพัฒนาจังหวัดของตนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดปี 2548 จึงเห็นควรสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการเพื่อไปดำเนินการตามแผนดังกล่าวเป็นจำนวน 20,000 ล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้จัดสรรงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศส่วนหนึ่งให้แล้ว จำนวน 5,000 ล้านบาท จึงจัดสรรเพิ่มให้อีก จำนวน 15,000 ล้านบาท
1.3 ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน (SML) จำนวน 9,400 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการสร้างความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของประชาชน เพื่อพลิกฟื้นหมู่บ้านให้มีพลังขับเคลื่อนสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์ความคิดและนำไปสู่การปฏิบัติในการสร้างปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เพื่อการดำรงชีพและการมีอาชีพของประชาชนโดยส่วนรวมตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งเป็นการพัฒนารูปแบบและระบบในการเตรียมความพร้อมของประชาชนและชุมชนเพื่อรองรับการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นที่เต็มรูปแบบในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รัฐบาลได้ดำเนินการโครงการนำร่องหมู่บ้านและชุมชนต้นแบบทั้งสิ้น 1,002 แห่ง ประกอบด้วย หมู่บ้าน 876 แห่ง และชุมชน 126 แห่ง เป็นเงิน 250 ล้านบาท สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เห็นควรที่จะดำเนินการประมาณ 38,250 แห่ง วงเงินประมาณ 9,400 ล้านบาท
1.4 ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนและความยากจนของประชาชน จำนวน 4,000 ล้านบาท ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นวาระแห่งชาติโดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการแก้ไขความยากจนให้หมดไปภายในปี 2551 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่มาจดทะเบียนปัญหา จำนวน 8.04 ล้านคน ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสภาพข้อเท็จจริงของปัญหา สำหรับแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 คาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 13,526.8 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรแล้ว 8,038.7 ล้านบาท คงเหลือที่จะต้องใช้เงินอีกประมาณ 5,488.1 ล้านบาท เนื่องจากมีระยะเวลาการใช้งบประมาณเพียง 4 เดือน จึงจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนประมาณ 4,000 ล้านบาท
1.5 เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จำนวน 4,600 ล้านบาท เพื่อคงสัดส่วนรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาลที่ร้อยละ 23.5 ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้วยพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รัฐได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว จำนวน 110,610.7 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีก 4,603.1 ล้านบาท หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยตั้งไว้ที่งบกลางรายการเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
2. ระยะเวลาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ทันต่อความจำเป็นในการใช้จ่ายจึงกำหนดให้การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 เป็นวันที่ 20 เมษายน 2548 วาระที่ 2 วันที่ 25 เมษายน 2548 วาระที่ 3 วันที่ 4 พฤษภาคม 2548 และการพิจารณาของวุฒิสภาวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาการเปิดประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติของรัฐสภา และหากดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2548
3. ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... พร้อมเอกสารงบประมาณประกอบร่างพระราชบัญญัติ โดยมีรายละเอียดตามแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ในข้อ 1 ซึ่งได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
4. แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของสำนักงบประมาณเพื่อประกอบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. ....
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 เมษายน 2548--จบ--