คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ สถาบันทางการแพทย์ และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในภาพรวมของประเทศ ในระยะยาว (5 ? 10 ปี) (ยุทธศาสตร์ฯ) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ในระดับกระทรวง [สธ. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงกลาโหม (กห.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ] และระดับหน่วยงาน (คณะแพทยศาสตร์ของ 19 มหาวิทยาลัยกับ 12 เขตสุขภาพ) จัดทำยุทธศาสตร์ฯ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของระบบบริการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ลดช่องว่างการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน จัดทำแผนกำลังคนตามการจัดระบบบริการโดยเขตสุขภาพ ของ สธ. (Service delivery & HR blueprint) สนับสนุนการกระจายบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ขาดแคลน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ฯ ที่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยขยายผลสู่การสร้างเครือข่ายศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ฯ ซึ่งประกอบด้วย 6 ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (ศูนย์ฯ) ตามเขตพื้นที่การปกครองของกระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งแต่ละศูนย์ฯ ประกอบด้วยเครือข่ายหลักและเครือข่ายร่วม อาทิ พื้นที่ภาคเหนือมีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเครือข่ายหลัก และมีเครือข่ายร่วม เช่น โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ยุทธสาสตร์ฯ ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) การสร้างความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ (2) การสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพ (3) การลดความเหลื่อมล้ำของการได้รับบริการและสถานพยาบาล ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. วิสัยทัศน์
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์
2. พันธกิจ
พัฒนาและส่งเสริม
- ขีดความสามารถของประเทศไทยในการแข่งขันด้านสุขภาพกับต่างประเทศ
- ให้มีสถานบริการสุขภาพระดับ Excellence Center ครอบคลุมทุกภาค
- สถาบันการศึกษามีความเป็นเลิศทางด้านการศึกษาทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ
- การสร้างนวัตกรรม และการวิจัยทางด้านสุขภาพ
3. จุดมุ่งหมาย
- ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ระดับทุติยภูมิและตติยภูมิได้อย่าง สะดวก ทั่วถึง เพียงพอ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การบริการทางการแพทย์สามารถแข่งขันกับนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทย มีความเป็นเลิศด้านบริการทางการแพทย์ สถาบันการศึกษา และการวิจัย ทางการแพทย์
- เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติได้ โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสุขภาพ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ให้เกิดความคุ้มค่า เต็มศักยภาพ เกิดการพัฒนาในระดับความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศและการพัฒนาศักยภาพรองรับการให้บริการด้านสุขภาพในระดับสากล
4. เป้าประสงค์
ศูนย์กลางบริการสุขภาพ (Medical Service Excellence Center)
ศูนย์กลางการศึกษาด้านการแพทย์ (Academic Excellence Center)
ศูนย์กลางการวิจัยทางการแพทย์ (Research Excellence Center)
5. ตัวชี้วัด
1. อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคหัวใจ มะเร็ง การบาดเจ็บ และการแพทย์ฉุกเฉิน ทารกแรกเกิดลดลงตามเป้าที่กำหนด (ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข)
2. การส่งต่อออกนอกเขตสุขภาพลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
3. อายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดไม่น้อยกว่า 80 ปี
6. กรอบยุทธศาสตร์
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ (Competitive Advantage)
- เน้นการให้บริการด้วยเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาการศึกษาเฉพาะทาง
- การพัฒนางานวิจัยในระดับสากล หรือการสร้างองค์ความรู้ใหม่
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพ (Health Service System Strengthening)
- เน้นการพัฒนาระบบการส่งต่อนอกเขตเฉพาะโรคที่มีความซับซ้อน ยุ่งยาก การพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ การผลิตแพทย์เฉพาะทาง
- การพัฒนางานวิจัยในระดับประเทศหรือระดับสากล
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การลดความเหลื่อมล้ำของการได้รับบริการและสถานพยาบาล (Disparity of Services Rendering) เน้นการพัฒนาด้านพื้นฐานในเขตสุขภาพ 5 สาขาหลัก ได้แก่
- หัวใจและหลอดเลือด
- มะเร็ง
- การบาดเจ็บและการแพทย์ฉุกเฉิน
- ทารกแรกเกิด
- การปลูกถ่ายอวัยวะ
โดยยุทธศาสตร์ฯ ได้กำหนดผลที่คาดว่าจะได้รับ งบประมาณ รวมทั้งการติดตามและประเมินผล ดังนี้
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ยกระดับคุณภาพบริการในระบบสุขภาพของประเทศเพื่อการมีสุขภาวะที่ดีของประชาชนโดยรวมของประเทศ
- พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์สถาบันการศึกษาในระดับภูมิภาค
- มีเครือข่ายศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่เทียบเคียงได้ในทุกภูมิภาค
งบประมาณดำเนินการ
ปีงบประมาณ - จำนวนเงิน (ล้านบาท)
2563 19,007
2564 16,398
2565 13,083
2566 ? 2570 14,135
รวมทั้งสิ้น 62,623
การติดตามและประเมินผล
- รายกรอบยุทธศาสตร์ย่อย ติดตาม และประเมินผล โดยคณะกรรมการที่ได้ดำเนินการแต่งตั้ง
- ภาพรวมของยุทธศาสตร์รายงานต่อคณะกรรมการพัฒนาและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ เป็นรายปี
2. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เห็นชอบในหลักการและให้ปรับปรุงยุทธศาสตร์ฯ โดยมุ่งเน้นใน 5 ประเด็นสำคัญ ซึ่ง สธ. ได้ดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดดังกล่าวแล้ว ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 ตุลาคม 2563