คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 24/2563 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ที่ได้มีการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) และพิจารณาความเหมาะสมของการปรับปรุงรายละเอียดของแผนงาน/โครงการ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของพระราชกำหนดฯ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ พ.ศ. 2563 ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยปรับลดกรอบวงเงินของโครงการฯ จาก 195.0000 ล้านบาท เป็น 186.2845 ล้านบาท (ลดลงประมาณ 8.7155 ล้านบาท) และใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานที่ 3.1 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ พร้อมทั้งเห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการฯ ตามขั้นตอนต่อไป
2. อนุมัติการปรับปรุงรายละเอียดของโครงการกำลังใจและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ภายใต้กรอบวงเงินเดิมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสนอ พร้อมทั้งเห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปรับปรุงจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการฯ ตามขั้นตอนต่อไป
3. รับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 และวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการจัดหางาน และกรมพัฒนาที่ดิน และเห็นควรให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการจัดหางาน และกรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินโครงการฯ กรอบวงเงิน 61,697,975 บาท ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 กรอบวงเงิน 6,793,600 บาท และเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 กรอบวงเงิน 54,904,375 บาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ต่อไป
สาระสำคัญของโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
1) วัตถุประสงค์ พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้และทักษะสำหรับการทำงานร่วมกับกระบวนการผลิตบนแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ 34 ราย
2) เป้าหมาย บุคลากรภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วมการอบรม จำนวน 9,500 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) ระดับ Supervisor และผู้จัดการ จำนวน 2,300 คน (2) พนักงานระดับปฏิบัติการจำนวน 3,600 คน (3) พนักงานระดับบุคลากรแรงงาน จำนวน 3,600 คน
3) กิจกรรม
3.1) หลักสูตรระยะสั้นร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ (Car Maker) และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
3.2) จัดอบรมหลักสูตร technology management for technical supervisors ให้กับ supervisors และพนักงานในระดับผู้จัดการของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 2,300 คน
3.3) จัดอบรมหลักสูตรอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับพนักงานระดับปฏิบัติการให้กับพนักงานระดับปฏิบัติการของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 3,600 คน
3.4) จัดอบรมหลักสูตรอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับพนักงานระดับแรงงานให้กับพนักงานระดับแรงงานของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 3,600 คน
4) ผลที่คาดว่าจะได้รับ บุคลากรของผู้ผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 9,500 คน ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรระยะสั้นและสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 ได้
การปรับปรุงรายละเอียดของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เพื่อให้โครงการกำลังใจและโครงการเราเที่ยวด้วยกันสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ททท. จึงขอปรับปรุงรายละเอียดของโครงการกำลังใจและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ภายใต้กรอบวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้แล้ว ดังนี้
1) อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานครจำนวน 570 คน และเจ้าหน้าที่หัวหน้างานสาธารณสุขมูลฐานและงานสุขภาพภาคประชาชนระดับจังหวัด และระดับอำเภอ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2,615 คน ให้สามารถเข้าร่วมโครงการกำลังใจได้
2) อนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันสามารถใช้บริการโรงแรมที่พักและใช้ E-Voucher สำหรับค่าสนับสนุนอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้
3) อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกำลังใจและเราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
4) อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณดำเนินโครงการกำลังใจและเราเที่ยวด้วยกันถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ตุลาคม 2563