คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (ร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ) Joint Declaration of Intent on the Further Development of the Cooperation in the Field of Railways between the Ministry of Transport of the Kingdom of Thailand and the Federal Ministry of Transport and Degital Infrastructure of the Federal Republic of Germany) ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคม (คค.) สามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่องการจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. แถลงการณ์ร่วมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือด้านระบบราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการขนส่งทางรถไฟและระบบขนส่งมวลชนในเมืองภายใต้กลไกคณะทำงานร่วมระบบรางไทย - เยอรมนี และคณะทำงานกลุ่มย่อยตามกิจกรรมความร่วมมือใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) ด้านการวิจัยและพัฒนา (2) ด้านการประกอบการเดินรถ และ (3) ด้านอุตสาหกรรมระบบราง แต่โดยที่ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ได้สิ้นสุดการมีผลบังคับเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ดังนั้น กระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจึงเสนอให้มีการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ร่วมฯ ข้อ 5 (2) กำหนดให้ ?แถลงการณ์ร่วมฯ มีอายุ 3 ปี และอาจมีการต่ออายุได้อีก 2 ปี อย่างต่อเนื่องกัน ตามความเห็นชอบของทั้งสองฝ่ายเป็นลายลักษณ์อักษร? และได้ระบุให้ความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564
ที่ผ่านมาฝ่ายไทยและฝ่ายเยอรมนีได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและการดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เช่น (1) การจัดตั้งสมาคมระบบรางไทย - เยอรมนี (German - Thai Railway Association: GTRA) (2) การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการเพื่อจัดทำหลักสูตรปริญญาร่วมวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน (หลักสูตรนานาชาติ) ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ RWTH Aachen University ของเยอรมนี และ (3) การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากร
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ตุลาคม 2563