1. เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 เป็นรายเขต 9 เขต โดยราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตรา 790.62 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 47.44 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 338.84 บาทต่อตันอ้อย
2. เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2561/2562 เป็นรายเขต 9 เขต ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตรา ตันอ้อยละ 680.77 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 40.85 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 291.76 บาทต่อตันอ้อย
สาระสำคัญของเรื่อง
3.1 เห็นชอบข้อมูลองค์ประกอบและหลักเกณฑ์การคำนวณราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561
3.2 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 เป็นราย 9 เขต โดยราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราตันอ้อยละ 790.62 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 47.44 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 338.84 บาทต่อตันอ้อย 4. กอน. ในการประชุม ครั้งที่ 10/2563 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 มีมติตามที่ กบ. เสนอ ดังนี้
4.1 เห็นชอบข้อมูลองค์ประกอบการคำนวณราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2561/2562 (มีองค์ประกอบการคำนวณเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลตัวเลขที่ใช้คำนวณต่างกัน เช่น ปริมาณอ้อยและราคาน้ำตาลทราย)
4.2 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2561/2562 เป็นรายเขต 9 เขต ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราตันอ้อยละ 680.77 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 40.85 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 291.76 บาทต่อตันอ้อย 5. การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 และปี 2561/2562 เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 โดยราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิต ปี 2560/2561 และปี 2561/2562 ทั้ง 2 ปี ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ซึ่งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กองทุนฯ) ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับโรงงานเท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาอ้อยขั้นต้นและราคาอ้อยขั้นสุดท้ายดังกล่าว แต่ชาวไร่อ้อยไม่ต้องส่งคืนค่าอ้อยที่ได้รับเกินตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 6. การจ่ายเงินชดเชยให้แก่โรงงานและโรงงานนำส่งเงินกองทุนฯ
6.1 ฤดูการผลิตปี 2560/2561 กองทุนฯ จะต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้กับโรงงานเป็นจำนวน 19,730.74 ล้านบาท โดยกองทุนฯ จะมีรายได้จากโรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ* จำนวน 2030.06 ล้านบาท (คิดจากปริมาณอ้อยฤดูการผลิตปี 2560/2561 ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561 จนถึงวันปิดหีบ จำนวน 101.503 ล้านตัน)
6.2 ฤดูการผลิตปี 2561/2562 กองทุนฯ จะต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้กับโรงงานเป็นจำนวน 3,068.47 ล้านบาท โดยกองทุนฯ จะมีรายได้จากโรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ* จำนวน 2,619.40 ล้านบาท (คิดจากปริมาณอ้อยฤดูการผลิตปี 2561/2562 จำนวน 130.97 ล้านตัน) 7. ประเด็นข้อพิพาท เรื่อง น้ำตาลภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ระหว่างประเทศไทยกับประเทศบราซิล มิได้มีประเด็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการในการคำนวณราคาอ้อยทั้งขั้นต้นและขั้นสุดท้าย ดังนั้น การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 และฤดูการผลิตปี 2561/2562 จึงไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด แต่เป็นการรักษาประโยชน์ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมทั้งเป็นการสร้างหลักประกันอย่างพอเพียงและเหมาะสมให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย
หมายเหตุ * เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2563 ข้อ 4 ที่กำหนดให้โรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ โดยคำนวณจากปริมาณอ้อยที่ส่งให้แก่โรงงาน ในแต่ละฤดูการผลิตทุกเมตริกตัน ในอัตรายี่สิบบาทต่อหนึ่งเมตริกตัน
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563