คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 30/2563 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ที่ได้มีการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) และพิจารณาความเหมาะสมของการปรับปรุงรายละเอียดของแผนงานหรือโครงการ รวมถึงรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ ราย 3 เดือน รอบที่ 2 (ระหว่างวันที่1 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563) เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของพระราชกำหนดฯ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ) ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอ ดังนี้ 1. อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
วงเงินรวม 22,500 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ภายใต้แผนงานที่ 3.3 พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการต่อไป 2. อนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง วงเงินและแหล่งเงิน จำนวนไม่เกิน 20,635.4925 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตาม พระราชกำหนดฯ ภายใต้แผนงานที่ 2.1 พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังรับความเห็นและ
ข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการต่อไป 3. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 1 และข้อ 2 ดำเนินการดังนี้
3.1 จัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายวัน/รายเดือน (แล้วแต่กรณี) เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลด ค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ
3.2 รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงปัญหา
อุปสรรค โดยจัดส่งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด
ภายในวันที่ 7ของเดือนถัดไป
3.3 ประสานกับกระทรวงการคลังในการรายงานขีดความสามารถในการชำระคืนหนี้
เงินกู้ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 6 แห่พระราชกำหนดฯ ด้วย 4. อนุมัติการปรับปรุงรายละเอียดวิธีดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันและโครงการกำลังใจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ทั้งนี้ เห็นควรให้ปรับลดวงเงินสำหรับจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางในรูปแบบ Consumer Fair จำนวน 3 ครั้ง ภายใต้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากวงเงิน 9,000,000 บาท เป็น 8,080,000 บาท (ปรับลด 920,000 บาท) พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเศษฐกิจการคลังและธนาคารกรุงไทยฯ รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการต่อไปด้วย 5. มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งสร้างความชัดเจนของการดำเนินโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋าตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการฯ เพื่อให้การดำเนินโครงการสามารถส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน รวมถึงการลงทุนต่าง ๆ ของภาคเอกชน เพื่อให้สภาวะการบริโภคและการลงทุนกลับเข้าสู่ระดับปกติได้โดยเร็วตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และนำเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนต่อไป 6. มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ดำเนินแผนงาน/โครงการโดยใช้เงินกู้ตาม พระราชกำหนดฯ ที่มีรูปแบบการร่วมจ่ายของภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าจะสามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความรัดกุมในการดำเนินการ กระทรวงเจ้าสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการติดตามตรวจสอบผู้เข้าร่วมโครงการในเชิงรุก นอกจากนี้ ให้ส่วนราชการนำประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการดำเนินโครงการดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการป้องกันและลดความเสี่ยงของการดำเนินโครงการต่อไป 7. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ ราย 3 เดือน ครั้งที่ 2 (ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563) ตามมาตรา 8 (2) แห่งพระราชกำหนดฯ พร้อมทั้งเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบรับความเห็นและข้อสนอแนะ เพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 8. รับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ของจังหวัดพัทลุง และอนุมัติให้จังหวัดพัทลุงดำเนินโครงการเลี้ยงสัตว์น้ำตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง วงเงิน 6.0500 ล้านบาท ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ต่อไป ทั้งนี้ เห็นควรให้หน่วยงานรับผิดชอบแผนงาน/โครงการของจังหวัด จำนวน 12 โครงการ เร่งรายงานผลการดำเนิงานตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 และวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว 9. มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดระเบียบหรือแนวทางปฏิบัติในการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ขององค์กรภาคประชาชน เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 ธันวาคม 2563