คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งด้านพัสดุ พ.ศ. ?. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ ศธ. รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ศธ. เสนอว่า
1. พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 49 วรรคสอง (2) บัญญัติให้ข้าราชการที่ไม่เป็นข้าราชการพลเรือน ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ เป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐที่ข้าราชการนั้นสังกัดอยู่ และมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ประกอบกับมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามระเบียบที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
2. ก.ค.ศ. จึงได้กำหนดตำแหน่งและมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน ให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
3. ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับข้าราชการพลเรือนและข้าราชการประเภทอื่น จึงเห็นควรกำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรการ 38 ค. (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนและข้าราชการประเภทอื่น ศธ. จึงได้ยกร่างระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งด้านพัสดุ พ.ศ. ?. ขึ้น
4. ในคราวประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีมติเห็นชอบร่างระเบียบตามข้อ 3. และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
5. ศธ. ได้เสนอรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาด้วยแล้ว โดยได้ประมาณการรายจ่ายสำหรับการกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามร่างระเบียบในเรื่องนี้เป็นรายปี จำนวน 5 ปี รวมถึงการประมาณการรายจ่ายสำหรับตำแหน่งดังกล่าวที่มีการเลื่อนระดับในแต่ละปี ดังนี้
หน่วย : บาท
ส่วนราชการ ปีที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 92,000
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1,839,000
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 72,000
รวม 2,003,000
ส่วนราชการปีที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ112,000
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน2,005,000
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา72,000
รวม 2,189,000
ส่วนราชการ ปีที่ 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 132,000
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2,005,000
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 72,000
รวม 2,209,000
ส่วนราชการ ปีที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 152,000
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2,005,000
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 72,000
รวม 2,229,000
ส่วนราชการ ปีที่ 5 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 172,000
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2,005,000
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 72,000
รวม 2,249,000
ทั้งนี้ การกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถ และปฏิบัติหน้าที่ด้านพัสดุได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งเป็นการป้องปรามการทุจริตคอรัปชั่นในส่วนราชการด้วย
จึงได้เสนอร่างระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งด้านพัสดุ พ.ศ. ?. มาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างระเบียบ
1. กำหนดให้บุคลากรทางการศึกษาซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการพัสดุและตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุ ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุในตำแหน่งเจ้าหน้าที่หรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่ มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดในร่างระเบียบนี้
2. กำหนดให้จ่ายเงินเพิ่มตามร่างระเบียบนี้ให้แก่บุคลากรทางการศึกษาตามข้อ 1. ตั้งแต่วันที่บุคลากรทางการศึกษาดังกล่าวมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะมีสิทธิได้รับเงินเพิ่ม แต่ต้องไม่ใช่ก่อนวันที่ร่างระเบียบนี้จะมีผลใช้บังคับ
3. กำหนดกรณีที่บุคลากรทางการศึกษารายใดมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษประเภทอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในร่างระเบียบนี้อยู่ด้วยแล้ว ให้ได้รับเงินเพิ่มตามร่างระเบียบนี้หรือเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษประเภทอื่นที่มีอัตราสูงสุดเพียงตำแหน่งเดียว
4. กำหนดให้ผู้ที่ผ่านหลักสูตรมาตรฐานวิชาชีพด้านการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (Certificate in Public Procurement ? CPP) ที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่ร่างระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรมาตรฐานวิชาชีพด้านการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในร่างระเบียบนี้
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 ธันวาคม 2563