เรื่อง คณะกรรมการการบินพลเรือนกำหนดนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศเกี่ยวกับการมอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศและบริการการเดินอากาศที่เกี่ยวเนื่องสำหรับการบินพลเรือนของประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศเกี่ยวกับการมอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศและบริการการเดินอากาศที่เกี่ยวเนื่องสำหรับการบินพลเรือนของประเทศไทย รวม 3 ด้าน คือ (1) ด้านบริการการจัดการจราจรทางอากาศ (2) ด้านบริการระบบการสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศ และระบบติดตามอากาศยาน และ (3) ด้านบริการการออกแบบวิธีปฏิบัติการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน โดยให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำกับดูแลการให้บริการของ บวท. ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดภายใต้พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เสนอ
กบร. รายงานว่า
1. ปัจจุบัน บวท. เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมจราจรทางอากาศ การสื่อสารการบิน และการบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติการบิน ตามความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งทางอากาศ และมาตรฐานและข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ให้เป็นไปด้วยความปลอดภัยสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ ตามหนังสือสัญญาระหว่างกระทรวงคมนาคม (คค.) กับ บวท. ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2528 และได้ต่ออายุหนังสือสัญญาถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ดังนั้น หนังสือสัญญาดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะถาวรและต้องดำเนินการต่ออายุหนังสือสัญญาซึ่งภารกิจการให้บริการจราจรทางอากาศเป็นงานสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการเดินอากาศที่ต้องให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง รวมทั้งภายหลังปี 2545 หน้าที่และอำนาจของ คค. ได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ภารกิจที่เกี่ยวกับการจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุได้โอนย้ายไปอยู่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับ ICAO ได้วางมาตรฐานการกำกับดูแลในเรื่องบริการการจัดการจราจรทางอากาศเป็นเรื่องหนึ่งในผู้ให้บริการการเดินอากาศ ซึ่ง กพท. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือน ได้วางหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการบริการการเดินอากาศไว้ในหมวด 1/2 ของพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 ซึ่งในอนาคตผู้ให้บริการการเดินอากาศจำเป็นต้องได้รับใบรับรองจาก กพท. และมีการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ICAO กำหนด คค. จึงเห็นว่า เนื้อความในหนังสือสัญญาดังกล่าวมีความล้าสมัยไม่ตรงตามบริบทในปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาแนวทางอื่นที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อจะให้รัฐบาลมอบงานการให้บริการจราจรทางอากาศให้ บวท. เป็นการถาวร
2. จากแนวทางของต่างประเทศ หน่วยงานให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศจะถูกมอบหมายให้มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศ และจะต้องได้รับใบรับรองอันเป็นหลักฐานยืนยันมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการดำเนินงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานรัฐหรือบริษัทที่มีรัฐเป็นผู้จัดตั้ง โดยในปัจจุบัน บวท. ได้ยื่นคำขอรับใบรับรองบริการเดินอากาศ 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านการจัดการจราจรทางอากาศ (2) ด้านระบบการสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศ และระบบติดตามอากาศยาน และ (3) ด้านการออกแบบวิธีปฏิบัติการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 ต่อ กพท. แล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กพท. ซึ่งการมอบหมายให้ บวท. เป็นหน่วยงานให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศสำหรับการบินพลเรือนของประเทศไทย จะทำให้กระบวนการกำกับดูแลมีความครบถ้วนตามแนวทางสากล
3. ด้วยนโยบายห้วงอากาศแห่งชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 กำหนดให้จัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการห้วงอากาศเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายห้วงอากาศแห่งชาติในระดับปฏิบัติการ กบร. ในการประชุมครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 จึงมีมติให้จัดตั้ง ?ศูนย์บริหารจัดการห้วงอากาศ? เป็นหน่วยงานบริหารจัดการห้วงอากาศ โดยให้ผู้แทนจาก บวท. เป็นหัวหน้าศูนย์บริหารจัดการห้วงอากาศ
4. เพื่อให้ทิศทาง แนวทาง และนโยบายการประกอบกิจการจราจรทางอากาศของประเทศไทยมีความชัดเจนและมีเสถียรภาพ สอดคล้องกับนโยบายห้วงอากาศแห่งชาติและแนวทางสากลในการให้บริการจราจรทางอากาศตามมาตรฐาน ICAO กบร. ในการประชุมครั้งที่ 6/2563 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 จึงมีมติกำหนดนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศเกี่ยวกับการมอบหมายให้ บวท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศและบริการการเดินอากาศที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริการระบบการสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศ และระบบติดตามอากาศยานและบริการการออกแบบวิธีปฏิบัติการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินสำหรับการบินพลเรือนของประเทศไทย โดยให้ กพท. ดำเนินการกำกับดูแลการให้บริการของ บวท. ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดภายใต้พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
5. บวท. แจ้งว่า มีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการเป็นหน่วยงานให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศและบริการการเดินอากาศที่เกี่ยวเนื่องสำหรับการบินพลเรือนประเทศไทย โดยดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ กพท. และตามความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งทางอากาศและมาตรฐานและข้อเสนอแนะของ ICAO ให้เป็นไปด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 ธันวาคม 2563