คณะรัฐมนตรีรับทราบการลงนามหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ทั้งฝ่ายไทยและสาธารณรัฐเกาหลีไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อร่วมลงนามหนังสือความร่วมมือฯ ได้ ประกอบกับสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลง กระทรวงยุติธรรมโดยสำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้หารือกับสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี ในประเด็นการลงนามโดยการส่งเอกสารระหว่างคู่ภาคีแทนการลงนามต่อหน้ากัน ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีไม่ขัดข้อง ในประเด็นดังกล่าว และทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การลงนามเอกสารความตกลงระหว่างประเทศด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นความปกติใหม่ (New Normal) ที่ยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ ยธ. โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ขอความเห็นจากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เกี่ยวกับ 1) ขั้นตอนและวิธีการลงนามในเอกสารความตกลงระหว่างประเทศ โดยการส่งเอกสารระหว่างคู่ภาคีแทนการลงนามต่อนามกัน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. ให้ความเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินการได้ตามแนวทางที่เห็นชอบร่วมกัน 2) เนื้อหาในเอกสารความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับประเด็นลงนาม กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. ให้ความเห็นว่า เห็นควรให้แก้ไขถ้อยคำบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการลงนามโดยการส่งเอกสารระหว่างทั้งสองฝ่าย ในประเด็นการมีผลสมบูรณ์ของเอกสารข้อตกลงระหว่างประเทศเมื่อมีการลงนามโดยผู้ลงนามคนสุดท้าย การลงนามคู่ฉบับเป็นภาษาอังกฤษ และการเพิ่มวันที่และสถานที่ลงนามของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ การแก้ไขถ้อยคำข้างต้นไม่ถือเป็นการปรับแก้สาระสำคัญของเอกสารและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ และเห็นควรนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว 3) ระยะเวลาในการลงนาม ในเอกสารความตกลงหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. ให้ความเห็นว่า การลงนามในความตกลงระหว่างประเทศที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้วนั้น ส่วนราชการเจ้าของเรื่องสามารถพิจารณาดำเนินการได้ในโอกาสที่เหมาะสม โดยมิได้มีการกำหนดระยะเวลาที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ
สาธารณรัฐเกาหลีได้แจ้งเปลี่ยนผู้ลงนามหนังสือความร่วมมือฯ จากนายคิม จุน ฮวอน รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ลำดับที่ 3) (Mr. KIM Joon Hwan, the 3rd Deputy Director) เป็น นายพาร์ค จงฮยอน รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ลำดับที่ 2) (Mr. Park Jeonghyeon, the 2nd Deputy Director) และไม่ขัดข้องต่อการแก้ไขถ้อยคำบางส่วนในหนังสือความร่วมมือฯ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 เลขาธิการ ป.ป.ส. (นายนิยม เติมศรีสุข ในขณะนั้น) ได้ลงนามหนังสือความร่วมมือฯ (ฝ่ายไทยลงนามก่อน) พร้อมส่งมอบให้นายชอย แจซอน (Mr. CHOI Jae Seon)
อัครราชทูตที่ปรึกษา ผู้แทนจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี ประจำสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย โดยสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามหนังสือความร่วมมือฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 และเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายชอย แจซอน ได้ส่งมอบหนังสือความร่วมมือฯ ที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามครบถ้วนสมบูรณ์แล้วให้ฝ่ายไทย จำนวน 1 ฉบับ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดระหว่างทั้งสองหน่วยงาน
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 ธันวาคม 2563