คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บริเวณเกาะโลซิน ตำบลน้ำบ่อ อำเภอ ปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
กำหนดให้บริเวณเกาะโลซิน ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสงวนไว้ซึ่งสภาพธรรมชาติเดิม ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ของปะการังและสัตว์ทะเลหายากในฝั่งอ่าวไทย ดังนี้
1. กำหนดให้บริเวณเกาะโลซิน ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานีและพื้นที่ทะเล รอบเกาะดังกล่าว ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวง เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยมีมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะพื้นที่ โดยให้จำแนกพื้นที่ออกเป็น 2 บริเวณ ดังนี้
1.1 บริเวณที่ 1 ได้แก่ พื้นที่บนแผ่นดินรวมทั้งพื้นที่ทะเลภายในบริเวณเส้นตรงที่ผ่านจุดพิกัดที่ 1 ถึงจุดพิกัดที่ 4 เป็นไปตามแผนที่แนบท้าย
1.2 บริเวณที่ 2 ได้แก่ พื้นที่ทะเลถัดจากบริเวณที่ 1 ออกไปภายในบริเวณเส้นตรงที่ผ่านจุดพิกัดที่ 5 ถึงจุดพิกัดที่ 8 เป็นไปตามแผนที่แนบท้าย
2. กำหนดให้ภายในพื้นที่บริเวณที่ 1 ห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรม ดังนี้
2.1 ห้ามทำให้เกิดมลพิษ ขยะ สารแขวนลอย ตะกอนแขวนลอย และมลสารปนเปื้อนจากการเดินเรือ การจอดเรือ การขนส่ง หรือการขนถ่าย ที่มีผลทำให้คุณภาพน้ำทะเลเสื่อมโทรมหรือเสียสภาพความเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น ปะการัง หญ้าทะเล และสัตว์น้ำหายาก
2.2 กระทำหรือดำเนินกิจกรรมใด ที่เป็นการทำลาย ทำให้เสียหาย หรืออาจเป็นอันตราย ตลอดจนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของแนวปะการัง ซากปะการัง กัลปังหา สัตว์น้ำในแนวปะการังและสัตว์ทะเลหายาก
2.3 การประกอบการประมงตามกฎหมายว่าด้วยการประมง
2.4 การทิ้งสมอ โดยกรณีที่ประสงค์จะจอดเรือ ให้กระทำโดยการผูกเรือกับทุ่นจอดเรือในบริเวณที่กำหนด และการกระทำหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่
2.5 การก่อสร้าง เว้นแต่เป็นการดำเนินการของทางราชการ เพื่อคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อรักษาความมั่นคงทางทะเล หรือเพื่อการศึกษาวิจัย ซึ่งต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็น กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และไม่เป็นการทำลายสภาพธรรมชาติเดิม โดยต้องได้รับความเห็นของกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมประมง และกองทัพเรือ เพื่อนำไปประกอบการขออนุญาตก่อสร้างตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการเก็บทรัพยากรธรรมชาติหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายต่อสัตว์และพืช เว้นแต่เป็นการดำเนินการของทางราชการเพื่อการศึกษาวิจัย โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด และการนำสัตว์และพืชเข้าไปเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี
2.6 การทำเหมืองแร่ในทะเล การสำรวจ การขุดเจาะน้ำมัน การผลิต การถ่ายเทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การขุด การถมทะเล หรือการขุดลอกร่องน้ำ
3. กำหนดให้พื้นที่บริเวณที่ 2 ห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรม ดังนี้
3.1 ทำให้เกิดมลพิษ ขยะ สารแขวนลอย ตะกอนแขวนลอย และมลสารปนเปื้อนจากการเดินเรือ การจอดเรือ การขนส่ง หรือการขนถ่าย ที่มีผลทำให้คุณภาพน้ำทะเลเสื่อมโทรมหรือเสียสภาพความเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น ปะการัง หญ้าทะเล และสัตว์น้ำ
3.2 กระทำหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นการทำลาย ทำให้เสียหายหรืออาจเป็นอันตราย ตลอดจนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของแนวปะการัง ซากปะการัง กัลปังหา สัตว์น้ำในแนวปะการังและสัตว์ทะเลหายาก
3.3 การทำเหมืองแร่ในทะเล การสำรวจ การขุดเจาะน้ำมัน การผลิต การถ่ายเทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การขุด การถมทะเล หรือการขุดลอกร่องน้ำ และการประกอบการประมงตามกฎหมายว่าด้วยการประมง ยกเว้นการทำการประมงโดยใช้เบ็ดมือ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การใช้พื้นที่เพื่อประโยชน์ในราชการของกองทัพเรือ
4. กำหนดให้การประกอบการท่องเที่ยวดำน้ำให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด
5. กำหนดให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดังนี้
5.1 จัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยแนวทางการอนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การคุ้มครองและการดูแลรักษาสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ การติดตามและประเมินผล โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดปัตตานี
5.2 สนับสนุนโครงการส่งเสริมองค์ความรู้ท้องถิ่นหรือกิจกรรมแก่ชุมชนในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเพื่อการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่กรมประกาศกำหนด
5.3 ให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการการบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
5.4 กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบการบังคับใช้มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มกราคม 2564