เรื่อง ขอความเห็นชอบการปรับปรุงวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2563 และวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
1. การปรับปรุงวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 จากวงเงินเดิม 1,775.653 ล้านบาท เป็น 1,917.380 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 141.727 ล้านบาท)ตามมติคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563
2. กรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 2,338.266 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 (รวมเป็นภาระที่รัฐต้องรับชดเชยทั้งสิ้น 2,479.993 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ให้ ขสมก.รายงานให้ กค. [สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)] ทราบในโอกาสแรกด้วย เพื่อ กค. (สศค.) จะได้จัดเก็บข้อมูลยอดคงค้างให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
1. คณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ได้พิจารณาข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ของ ขสมก. โดยมีมติเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ของ ขสมก. จำนวน 2,338.266 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนให้กับ ขสมก. ตามจำนวนส่วนต่างของประมาณการรายได้และต้นทุนของการให้บริการสาธารณะที่ ขสมก. ได้จัดทำข้อมูลสมมติฐานตามคู่มือในการขอรับการอุดหนุนบริการสาธารณะฯ โดยมีประมาณการรายได้ จำนวน 2,130.345 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะ จำนวน 4,468.611 ล้านบาท (ต้นทุนการให้บริการสาธารณะและต้นทุนการบริหาร เช่น เงินเดือนค่าจ้างและสวัสดิการ ค่าเช่าสถานที่ ค่าประกันภัย ค่ารักษาความปลอดภัย เป็นต้น) และให้ดำเนินการนำเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 จะปรับตามผลการดำเนินการจริงและตามบันทึกข้อตกลงการให้บริการสาธารณะที่รัฐวิสาหกิจและคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะลงนามร่วมกัน
2. คณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงการให้บริการสาธารณะตามบันทึกข้อตกลงการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ของ ขสมก. โดยมีมติเห็นชอบการปรับปรุงวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 จากวงเงินเดิม 1,775.653 ล้านบาท เป็นวงเงิน 1,917.380 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 141.727 ล้านบาท) (ปรับลดค่าเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E - Ticket) และระบบ Clearing House จำนวน 205.882 ล้านบาท และปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายพนักงานในรายการค่าเงินเดือนค่าจ้าง จำนวน 347.609 ล้านบาท) เพื่อให้ครอบคลุมผลขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการยกเลิกสัญญาเช่าระบบ E ? Ticket ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น และให้ดำเนินการนำเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
3. กรณีการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ขสมก. (ตามข้อ 1 และ ข้อ 2) เข้าข่ายลักษณะของกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามบทบัญญัติในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยการปรับปรุงวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 จกวงเงินเดิมจำนวน 1,775.653 ล้านบาท เป็นวงเงิน 1,917.380 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 141.727 ล้านบาท) และกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 2,338.266 ล้านบาท รวมเป็นภาระที่รัฐต้องรับชดเชยทั้งสิ้น 2,479.993 ล้านบาท ซึ่งภาระที่รัฐต้องรับชดเชยจากการดำเนินการดังกล่าวเมื่อรวมกับยอดภาระคงค้างที่มีอยู่เดิม ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ยังคงอยู่ในกรอบที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนดให้ยอดคงค้างทั้งหมดรวมกันไม่เกินร้อยละ 30 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่ง กค. ได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 27 และมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เรียบร้อยแล้ว
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2564