คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนไทย (Financial Literacy) ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
ข้อเท็จจริง
กค. เสนอว่าได้ดำเนินการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยพิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว สรุปผลการพิจารณาได้ ดังนี้
ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
1) กำหนดให้ความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ จัดให้มีการรวบรวมข้อมูลการสำรวจระดับความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนในแต่ละกลุ่ม จัดทำช่องทางดิจิทัลเพื่อมาส่งเสริมและติดตามพัฒนาการของความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนในวงกว้างและกำหนดให้มีขั้นตอนการดำเนินการและบทบาทของหน่วยงาน/องค์กร เช่น จัดทำแผนแม่บทในการสร้างความรอบรู้ทางการเงินให้กับคนไทยอย่างเหมาะสมกับกลุ่มคนและช่วงวัย
ผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะฯ
- สำนักงาน ก.ล.ต. รายงานว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนไทยในระดับวาระแห่งชาติแล้ว สำหรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เช่น ในการสำรวจระดับความรอบรู้ทางการเงินของคนไทย เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและสามารถวางแผนดำเนินการที่เหมาะสม การมีช่องทางดิจิทัลให้ประชาชนวงกว้าง เช่น เว็บไซต์ความรู้การเงินสำหรับคนไทย การมีแผนแม่บทการให้ความรู้ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่มีตัวชี้วัดที่วัดประสิทธิผลได้ชัดเจนและมีหน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละกลุ่ม เป็นต้น ซึ่งแนวทางตามข้อเสนอแนะดังกล่าวสอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย พ.ศ. 2560 - 2564 คปภ. ได้จัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ร่างแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ คปภ. โดยจะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยให้กับประชาชนควบคู่ไปกับการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมาย และ ธปท. ได้มีการจัดทำรายงานผลสำรวจทักษะทางการเงินของไทย ปี 2561 ตามกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นทางการแล้ว
2) จัดให้มีการปรับปรุงรูปแบบกิจกรรมที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น เช่น การตั้งเป้าให้มีการขยายผลการเรียนการสอนความรอบรู้ทางการเงินลงไปในระดับที่อายุน้อยลง และขยายกลุ่มเป้าหมายของการยกระดับความรู้ และคำนึงถึงการบูรณาการกับนโยบายและมาตรการอื่น
3) ควรมีสวัสดิการของรัฐสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและด้อยโอกาส และสนับสนุนให้มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน และส่งเสริมการออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และให้มีองค์กรการเงินชุมชน เนื่องจากเป็นหน่วยงานใกล้ชิดประชาชนแต่ละพื้นที่ และส่งเสริมการออมที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การปลูกต้นไม้มูลค่าสูงระยะยาว
ผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะฯ
- กค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากสามารถนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประชาชนไทย โดยจำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างคณะกรรมการหรือคณะทำงานที่สามารถสั่งการ กำกับดูแล และติดตามผลการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินได้อย่างบูรณาการ ครอบคลุมภารกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินซึ่งเป็นการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิตที่ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่องในการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่ง กค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการ โดย กค. ได้มีคำสั่งที่ 818/2563 ลงวันที่ 10 เมษายน 2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการพัฒนาทักษะทางการเงิน โดยประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐทั้งในและนอกสังกัด กค. หน่วยงานกำกับดูแลสาขาการเงิน และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะทางการเงินของประชาชน เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนและบูรณาการการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ทั้งนี้ กค. จะได้นำข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ มาพิจารณาในรายละเอียดกับหน่วยงานในคณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประชาชนไทยต่อไป
4) ควรกำหนดให้ความรอบรู้ทางการเงินเป็นหลักสูตรวิชาบังคับในระบบการศึกษา
ผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะฯ
- ศธ. ได้บรรจุเรื่องความรอบรู้ทางการเงินไว้ในหลักสูตรพื้นฐาน/บังคับของระบบการศึกษาไทยแล้ว โดยปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ภายใต้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในสาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564