1. อนุมัติดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 โดยขอรับการจัดสรรวงเงินงบประมาณเบื้องต้น จำนวน 4,613.04 ล้านบาท จากวงเงิน 8,807.54 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 เพื่อดำเนินโครงการฯ ไปพลางก่อน ซึ่งประมาณการงบประมาณที่ต้องใช้จากราคาเป้าหมาย (4 บาทต่อกิโลกรัม) หักด้วยราคาตลาดผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมันร้อยละ 18) เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2561 - 2563) เป็นฐานในการคำนวณ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.1 ค่าชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน วงเงิน 4,500 ล้านบาท ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายจากแหล่งเงินทุน
1.2 ค่าชดเชยต้นทุนเงินที่อัตราร้อยละ 2.20 (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของ ธ.ก.ส. ปัจจุบันที่ร้อยละ 1.20 + 1) วงเงิน 99 ล้านบาทและค่าบริหารจัดการ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการประชุม ประชาสัมพันธ์ สร้างระบบการตรวจสอบสิทธิและคำนวณเงินโอนประกันรายได้ตามสิทธิ สร้างระบบการโอนเงินประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรค่าดำเนินการโอนเงินประกันรายได้ และค่าใช้จ่ายอื่น ในอัตรา 7 บาทต่อรายเกษตรกรจำนวนเกษตรกร (เบื้องต้น) 370,000 ราย วงเงิน 2.59 ล้านบาท
ทั้งนี้ ให้ ธ.ก.ส. เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และปีถัด ๆ ไป ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป เพื่อรัฐบาลชำระคืนต้นเงินและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินโครงการทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 ปี ปีละ 1,200 ล้านบาท ยกเว้นปีที่ 4 จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด
1.3 ค่าบริหารจัดการโครงการประกันรายได้ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมการค้าภายใน วงเงิน 1.45 ล้านบาท และวงเงิน 10 ล้านบาท ตามลำดับ ให้ขอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามโครงการประกันรายได้ตามที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากกว่าวงเงินที่ได้รับอนุมัติแล้ว พณ. จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินงบประมาณในส่วนที่เหลือต่อไป
2. มอบหมาย พณ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ธ.ก.ส. กระทรวงมหาดไทย (มท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง (กค.) สำนักงบประมาณ (สงป.) ดำเนินโครงการตามอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมายของโครงการ และเจตนารมณ์ของรัฐบาลต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วประเทศที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562 - 2563 แล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินประกันรายได้ให้เกษตรกร จำนวน 378,892 ครัวเรือน วงเงิน 7,221.21 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.55 ของวงเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่เกษตรกร จำนวน 13,000 ล้านบาท (สิ้นสุดระยะเวลาการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563) แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันราคาปาล์มน้ำมันเริ่มปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ให้ผลผลิตทั้งปี ประกอบกับไทยยังต้องเฝ้าระวังจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลาย ภาวะการค้าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจึงยังไม่ปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 อย่างต่อเนื่องต่อไป
2. ในการประชุม กนป. ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 โดยคงหลักการเช่นเดียวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562 - 2563 ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์
- ให้ความช่วยเหลือด้านรายได้ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน
- บรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจากปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาผลผลิตตกต่ำ
2. เป้าหมาย
เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน โดยให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุ 3 ปีขึ้นไป)
3. เกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ
- กำหนดราคาเป้าหมายจากการขายผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมันร้อยละ 18) กิโลกรัมละ 4 บาท
- รัฐจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกรโดยตรง
- ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่อปีที่ใช้คำนวณวงเงินช่วยเหลือที่เกษตรกรแต่ละครัวเรือนจะได้รับ โดยใช้ข้อมูลผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศย้อนหลัง 3 ปี (เดือนกันยายน 2560 ถึงสิงหาคม 2563) คิดเป็น 2,948 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี
4. การจ่ายเงินประกันรายได้
- ธ.ก.ส. จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร โดยจ่ายเข้าบัญชีของเกษตรกรทุก 30 วัน หรือตามกรอบเวลาที่คณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกำหนด (มีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน และมีผู้อำนวยการกองส่งเสริมการสินค้าเกษตร 1 กรมการค้าภายใน เป็นเลขานุการ)
5. งบประมาณและแหล่งงบประมาณ (หน่วย : ล้านบาท)
(1) วงเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่เกษตรกร / 8,600.00
(2) วงเงินบริหารจัดการของ ธ.ก.ส.
(2.1) ชดเชยต้นทุนเงินในอัตราร้อยละ 2.251 ของวงเงินชดเชยฯ / 193.50
(2.2) ค่าบริหารจัดการของ ธ.ก.ส. (อัตรา 7 บาทต่อรายเกษตรกรประมาณการเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเบื้องต้น จำนวน 370,000 ราย) / 2.59
(3) วงเงินบริหารจัดการโครงการประกันรายได้ของส่วนราชการ
(3.1) กรมส่งเสริมการเกษตร / 1.45
(3.2) กรมการค้าภายใน / 10.00
รวม / 8,807.54
- เงินช่วยเหลือที่จ่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายจากแหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. และให้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และปีถัด ๆ ไป ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป เพื่อที่รัฐบาลจะชำระคืนต้นเงินและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินโครงการทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 ปี ปีละ 2,200 ล้านบาท ยกเว้นปีที่ 4 จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด
- ค่าบริหารจัดการโครงการของส่วนราชการ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมการค้าภายใน ให้ขอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามที่เกิดขึ้นจริง
6. ระยะเวลาดำเนินการ
- ระยะเวลาดำเนินการ : เดือนมกราคม - กันยายน 2564
- ระยะเวลาโครงการ : เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดจนกว่า ธ.ก.ส. จะได้รับงบประมาณชดเชยตามที่ทดรองจ่าย
7. หน่วยงานดำเนินการ
- หน่วยงานหลัก : พณ. กษ. ธ.ก.ส. และ มท.
- หน่วยงานสนับสนุน : กค. สงป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. กรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สงป. กรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องให้ พณ. ขอรับการจัดสรรงบประมาณกรอบใหม่เพื่อดำเนินโครงการฯ ปี 2564 จำนวน 8,807.54 ล้านบาท ตามที่ กนป. ได้มีมติเห็นชอบแล้วแทนการใช้กรอบวงเงินเดิมที่เหลืออยู่จากการดำเนินโครงการฯ ปี 2562 - 2563 ประกอบกับสถานการณ์ราคาผลปาล์มน้ำมันในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงตามปัจจัยฤดูกาล โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ซึ่งอาจส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาด้านราคาผลผลิตอ่อนตัวในช่วงดังกล่าว ดังนั้น ในครั้งนี้ พณ. จึงขอรับการจัดสรรวงเงินงบประมาณค่าชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่เกษตรกรเบื้องต้น จำนวน 4,500 ล้านบาท (จากวงเงิน 8,807.54 ล้านบาท) และค่าชดเชยต้นทุนเงินของ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 2.20 จำนวน 99 ล้านบาท (จากเดิมอัตราร้อยละ 2.25) โดยให้ ธ.ก.ส. เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อที่รัฐบาลชำระคืนต้นเงินและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 ปี ปีละ 1,200 ล้านบาท ยกเว้นปีที่ 4 จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
[1] ค่าชดเชยต้นทุนเงินที่อัตราร้อยละ 2.25 (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของ ธ.ก.ส. ที่ร้อยละ 1.25 + 1) เป็นอัตราเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่เสนอ กนป. แล้วในการประชุม กนป. ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564