3.1 จัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ
3.2 รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงปัญหา อุปสรรค โดยจัดส่งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนดภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
3.3 ประสานกับกระทรวงการคลังในการรายงานขีดความสามารถในการชำระคืนหนี้เงินกู้ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดฯ ด้วย 4. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ปรับปรุงรายละเอียดโครงการ เราชนะ ในส่วนการเปิดรับลงทะเบียนให้แก่กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จ แต่ไม่สามารถใช้วงเงินสนับสนุนผ่านแอปพลิเคชัน ?เป๋าตัง? ได้ รวมทั้งเห็นชอบแนวทางพิจารณาผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง โดยให้กลุ่มลูกจ้างตามสัญญาจ้างเหมาบริการของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (จ้างผ่านบริษัท) ลูกจ้างรายวันของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และอาสาสมัครต่าง ๆ หากผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติของโครงการฯ ที่กำหนดไว้จะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการฯ ตามขั้นตอน และเร่งปรับปรุงสาระสำคัญของโครงการฯ ในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
4.1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
4.2) เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมโดยมีข้อมูลในระบบประกันสังคม ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการฯ หรือเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 (วันที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการ ?เราชนะ?)
4.3) ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ
4.4) ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 5) วงเงิน 37,100 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ภายใต้แผนงานที่ 2.1 6) รูปแบบการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้
6.1) การจัดทำระบบฐานข้อมูลและการลงทะเบียน สปส. กระทรวงการคลัง (กค.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูลเว็บไซต์ระบบการลงทะเบียน และคัดกรองผู้ได้รับสิทธิจากฐานข้อมูลของภาครัฐต่าง ๆ เช่น ฐานข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ฐานข้อมูลโครงการเราชนะ ฐานข้อมูลเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เป็นต้น เพื่อประกอบการดำเนินการตามโครงการฯ
6.2) การตรวจสอบข้อมูลและคัดกรอง ธนาคารฯ เป็นผู้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูล และประมวลผลและคัดกรองข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
6.3) การจ่ายเงินสนับสนุน กค. อนุมัติเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าครองชีพ จำนวนไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน ผ่านระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g-Wallet) แอปพลิเคชัน ?เป๋าตัง? ของผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ จำนวน 1,000 บาทต่อสัปดาห์
6.4) การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา วงเงินที่ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิตามโครงการ ม 33 เรารักกัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพตามโครงการฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
6.5) การรับเรื่องร้องเรียน การขอทบทวนสิทธิ ผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติไม่ผ่าน ตามเกณฑ์การตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการยื่นขอทบทวนสิทธิ์ตามแนวทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการอื่น ๆ ที่กระทรวงแรงงาน (รง.) กำหนด โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
6.6) การเบิกจ่ายเงิน สปส. ดำเนินการเบิกจ่ายเงินกู้ตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนดฯ ทั้งนี้ กรณีที่ สปส. โอนเงินให้ร้านค้าและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ไม่สำเร็จจะดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงินให้แก่ร้านค้าและผู้ประกอบการภายในกันยายน 2564 7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ กลุ่มเป้าหมายได้รับการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าครองชีพ โดยการนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งก่อให้เกิดการจ่ายเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564