สรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2564

ข่าวการเมือง Wednesday March 31, 2021 09:19 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอสรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมีข้อสั่งการสำคัญใน 12 ประเด็น เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้กำกับและติดตามการดำเนินงานของหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป สรุปได้ ดังนี้

ข้อสั่งการ/การมอบหมายงาน

1. ให้พิจารณาข้อเสนอแนวทางการขับเคลื่อน กระตุ้น และฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของประชาชนภายใต้บริบทการบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น มีจำนวน ผู้ติดเชื้อภายในประเทศลดลงและเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว ทั้งนี้ ให้พิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่

2. ให้จัดทำวิดีทัศน์นำเสนอผลงานของหน่วยงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลให้มีรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ ทันสมัย เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง

3. ให้นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ปฏิบัติงาน การอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดยอาจพิจารณาสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล

4. ให้เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน ตามที่ได้รับการประสานจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ด้วยความรวดเร็ว

5. ให้พิจารณาจัดส่งข้อมูลให้กับ สปน. ตามที่ได้รับการร้องขอตามแนวทางที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 โดยเคร่งครัด

6. ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมจิตอาสา โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง - ทุกส่วนราชการ

7. ให้เตรียมแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นองค์รวมภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ภัยแล้ง และปัญหาน้ำ ทะเลหนุน

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

8. ให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร รวมถึง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตร เช่น 1) สร้างห้องเย็นเพื่อให้สามารถจัดเก็บสินค้าทางเกษตรได้นานขึ้น 2) ควบคุมความสมดุลระหว่างความสามารถในการเพาะปลูกพืชผลสินค้าทางการเกษตร และความต้องการผลผลิตทางการเกษตร 3) นำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ในการควบคุมปริมาณการใช้น้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชพันธุ์แต่ละชนิดให้เหมาะสม เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำลง และ 4) สนับสนุนความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเหมาะสมตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงการคลัง กษ. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

9. ให้สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจใหม่แบบองค์รวม (Bioeconomy, Circular Economy and Green Economy: BCG) ทั้งนี้ ให้ สศช. นำนโยบายดังกล่าวไปพิจารณาประกอบการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ด้วย

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงมหาดไทย และ สศช.

10.ให้จัดทำข้อเสนอรูปแบบการจ้างงานที่หลากหลาย รวมถึงแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนและการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมเพื่อดึงดูด จูงใจ และรักษาไว้ซึ่งกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถให้อยู่ในระบบราชการ

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

สำนักงาน ก.พ.

11.ให้เร่งรัดดำเนินการสรรหา สอบคัดเลือก และบรรจุแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อทดแทนอัตราว่างจากการเกษียณและอัตราตั้งใหม่ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วแต่ยังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำของประชาชนและบรรเทาผลกระทบของการว่างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ทุกส่วนราชการ

12.ให้กวดขันและเข้มงวดในการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อลดโอกาสในการทุจริตประพฤติมิชอบ

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ทุกส่วนราชการ

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มีนาคม 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ