คณะรัฐมตนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงที่ พน. เสนอ คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ และลักษณะของสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย การเก็บรักษา และการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบัน
1. กำหนดวิธีการคิดปริมาณก๊าซปิโตรเลียมเหลวในถังก๊าซหุงต้ม
2. กำหนดที่ตั้ง ลักษณะ และแผนผังของร้านจำหน่าย โดยห้ามตั้งร้านจำหน่ายถังก๊าซหุงต้มในอาคารชุด อาคารสรรพสินค้า อาคารแสดงสินค้า หรือสถานีบริการ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว
3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ รวมถึงปริมาณการเก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวในสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย โดยร้านจำหน่ายที่อยู่ห่างจากอาคารอื่นไม่เกิน 6.00 เมตร ให้เก็บได้ไม่เกิน 2,400 ลิตร อยู่ห่างจากอาคารอื่นเกิน 6.00 เมตรขึ้นไป ให้เก็บได้ไม่เกิน 12,000 ลิตร
4. กำหนดระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงข้อห้ามในการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย โดยกำหนดให้ร้านจำหน่ายลักษณะที่สอง (ร้านจำหน่ายที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตรขึ้นไป) ต้องจัดให้มีระบบป้องกันภัยแบบหัวกระจายน้ำดับเพลิง (Water Sprinklers) โดยต้องสามารถฉีดน้ำได้ครอบคลุมบริเวณที่เก็บถังก๊าซหุงต้มหรือกระป๋องก๊าซ และกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการร้านจำหน่ายต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการถ่ายเทก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซหุงต้ม
5. กำหนดบทเฉพาะกาล ให้ร้านจำหน่ายที่ประกอบกิจการอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้ภายในเวลา 1 ปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ และให้ร้านจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในตึกแถวที่ประกอบกิจการอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีกรรมสิทธิ์ในตึกแถวข้างเคียงที่มีผนังร่วมกัน
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 เมษายน 2564