คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เกลือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ?. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ พณ. รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของ อก. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
1. โดยที่มาตรา 5 (5) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 บัญญัติให้ในกรณีที่จำเป็นหรือสมควร เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สาธารณประโยชน์ การสาธารณสุข ความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดของรัฐ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดให้สินค้าใดที่ส่งออกหรือนำเข้าเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หนังสือรับรองคุณภาพสินค้า หรือหนังสือรับรองอื่นใดตามความตกลงหรือประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ และกำหนดมาตรการอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบในการส่งออกหรือการนำเข้าฯ
2. ประกอบกับได้มีคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ 2411/2562 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย มีอำนาจหน้าที่กำหนดแนวทาง มาตรการพัฒนาเกลือทะเลไทยทั้งระบบ รวมถึงกำหนดและจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณ และบูรณาการขับเคลื่อนการบริหารจัดการเกลือทะเลไทยให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
3. ในคราวประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 ที่ประชุมได้มีมติให้ พณ. โดยกรมการค้าต่างประเทศพิจารณากำหนดแนวทางควบคุมการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาเกลือทะเลจากปัญหาการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกลือในประเทศมีราคาตกต่ำ รวมทั้งกำกับดูแลการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ ซึ่งต่อมาได้มีการจัดประชุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการให้กรมการค้าต่างประเทศพิจารณาออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ผู้นำเข้าเกลือต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือและรายงานการนำเข้าต่อกรมการค้าต่างประเทศ และขอให้กรมการค้าต่างประเทศนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกรมการค้าต่างประเทศ
4. พณ. โดยกรมการค้าต่างประเทศได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เกลือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ?. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และได้นำร่างประกาศดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันที่ 1 ? 30 ตุลาคม 2563 ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวน 31 ราย โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างประกาศดังกล่าว เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาเกลือทะเลจากปัญหาการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ
จึงได้เสนอร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เกลือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ?. มาเพื่อดำเนินการ
1. กำหนดให้ผู้นำเข้าเกลือตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย จำนวน 7 รายการ ได้แก่ 2501.00.10 ? 000/KGM 2501.00.20 ? 000/KGM 2501.00.91 ? 000/KGM 2501.00.92 ? 000/KGM 2501.00.99 ? 003/KGM 2501.00.99 ? 004/KGM และ 2501.00.99 ? 090/KGM (เช่น เกลือป่นสำหรับรับประทาน เกลือหินที่ไม่ผ่านกรรมวิธี เกลือสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร หรืออุตสาหกรรมยา เกลือสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ) ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือต่อกรมการค้าต่างประเทศ
2. กำหนดให้เกลือตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย จำนวน 7 รายการ ตามข้อ 1. เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin : C/O) หรือหลักฐานการอนุญาตให้ส่งออกที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจจากประเทศผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการนำเข้า
3. กำหนดให้ผู้นำเข้าเกลือต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เช่น ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือกับกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานอื่นที่กรมการค้าต่างประเทศมอบหมายก่อนนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศประกาศกำหนด และต้องรายงานการนำเข้า การครอบครอง และวัตถุประสงค์การใช้ เป็นรายเดือนต่อกรมการค้าต่างประเทศ
4. ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 เมษายน 2564