คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) (โครงการฯ) และวงเงินงบประมาณรายจ่ายของโครงการฯ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ประกอบบทเฉพาะกาลมาตรา 68 (1) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการนโยบายฯ) เสนอ ดังนี้
1. ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนค่าอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า อุปกรณ์สำนักงานและส่วนประกอบ และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์และเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) ทั้งหมด รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้ภาครัฐตลอดระยะเวลา 15 ปี นับจากปีเปิดให้บริการ
2. ให้ดำเนินโครงการฯ ในกรอบวงเงินรวมสำหรับค่างานที่เกี่ยวข้องกับค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (ระยะที่ 2) จำนวน 660.43 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง
3. กรอบวงเงินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ของโครงการฯ จำนวน 34.22 ล้านบาท และวงเงินหลักประกันตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง จำนวน 200,000 บาท โดยให้ สงป. จัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง
4. มอบหมายให้ ขบ. กระทรวงคมนาคม (คค.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการนโยบายฯ ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ (17 เมษายน 2555) อนุมัติในหลักการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย (โครงการฯ) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานีปรับเปลี่ยนการขนส่งระหว่างประเทศไปสู่ภายในประเทศ รวมถึงเชื่อมต่อระบบการขนส่งจากถนนไปสู่ทางรถไฟ โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ ซึ่ง ขบ. ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 1 แล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2563 และ ขบ. จะเป็นผู้เปิดให้บริการและบริหารเองภายในเดือนพฤษภาคม 2564 ไปพลางก่อนในระหว่างดำเนินการเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ทั้งนี้ ขบ. พิจารณาแล้วว่าโครงการฯ มีความคุ้มค่าทั้งในด้านการเงิน [เฉพาะในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M)] และด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการนโยบายฯ) ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ได้พิจารณาผลการวิเคราะห์โครงการฯ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คณะกรรมการนโยบายฯ มีข้อสังเกตที่สำคัญบางประการ เช่น ให้ผลักดันให้มีพื้นที่ควบคุมร่วมกันระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นต้น ในครั้งนี้คณะกรรมการนโยบายฯ จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปสรุปได้ ดังนี้
1. ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบของ PPP Net Cost เฉพาะในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) ทั้งหมด และมีการให้สิทธิในทรัพย์สินของโครงการฯ ในรูปแบบ Build ? Operate ? Transfer (BOT) เพื่อให้ภาคเอกชนเปิดให้บริการโครงการฯ อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2565 ระยะเวลาสัมปทาน 15 ปี
2. ค่างานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการก่อสร้างขยายในส่วนพื้นที่ปฏิบัติงาน เช่น อาคารเปลี่ยนถ่ายและบรรจุสินค้า และลานกองเก็บตู้สินค้า เป็นต้น เพื่อรองรับเส้นทางรถไฟทางคู่สายเด่นชัย ? เชียงราย - เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 และปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต วงเงิน 660.43 ล้านบาท และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 34.22 ล้านบาท
3. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม (ขบ.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการนโยบายฯ ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 เมษายน 2564