เรื่อง รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?. ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?. ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
1.1 การกำหนดลักษณะเฉพาะของบุคคลที่จะสรรหาเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) ในแต่ละครั้ง คณะกรรมการ สรรหาควรคำนึงถึงความจำเป็นเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้านวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และด้านโทรคมนาคม รวมทั้งสภาพการณ์ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะนั้น ๆ เป็นสำคัญ
1.2 สำนักงาน กสทช. ควรดำเนินการให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม 2. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา (สว.) เสนอว่า ในคราวประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 21 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไว้บางประการ และที่ประชุมได้มีมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตนั้น โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 การกำหนดองค์ประกอบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ควรคำนึงถึงผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เกี่ยวกับการได้มาและรักษาไว้ซึ่งสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม และด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านบริหารธุรกิจ ด้านความมั่นคง ด้านการสื่อสารสาธารณะ ด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรมหรือการพัฒนาสังคม และด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วย
2.2 การกำหนดลักษณะเฉพาะที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านนั้นตามร่างมาตรา 5 แก้ไขมาตรา 14/1 ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยุทธศาสตร์ชาติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ กสทช. ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ด้วย 3. นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช. รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ในเรื่องใดได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 4. สำนักงาน กสทช. เสนอว่า ได้พิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีในข้อ 3. แล้ว สรุปได้ดังนี้
รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตฯ
- เห็นชอบตามข้อสังเกตดังกล่าว โดยจะรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตฯ
- ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ได้กำหนดให้ สว. เป็นหน่วยงานธุรการในการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกกรรมการ กสทช. ดังนั้น จึงเป็นการดำเนินงานของ สว. โดยตรง
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 เมษายน 2564