คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่ กระทรวงมหาดไทย รายงานสรุปสถานการณ์อุบัติเหตุเรือโดยสารล่มที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา และการให้ความช่วยเหลือดังนี้
1. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา อำเภอเกาะยาว ตำรวจน้ำ กองตำรวจน้ำ (จ.ภูเก็ต) กองทัพเรือ (กองเรือภาค 3) สำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี (สาขาภูเก็ต) หน่วยกู้ภัยทางทะเล อปพร. และอาสาสมัครต่างๆ นำเรือตรวจการชายฝั่งและเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนับแต่เรือประสบอุบัติเหตุ สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารจำนวนมากที่ลอยคออยู่กลางทะเล จำนวน 65 คน และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเกาะยาว จ.พังงา และโรงพยาบาลวชิระ จ.ภูเก็ต
2. วันที่ 6 มีนาคม 2548 ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ปลัดจังหวัด และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงาและคณะ ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 60 ชุด นอกจากนั้นกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายพงศ์เผ่า เกษทอง) เดินทางไปจังหวัดพังงา เพื่ออำนวยการประสานการให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัยร่วมกับจังหวัดพังงา ในการนี้ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 โดยมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติผู้เสียชีวิตเป็นค่าจัดการศพ 2 ราย ๆ ละ 15,000 บาท เงินปลอบขวัญผู้บาดเจ็บกรณีเข้ารักษาพยาบาลเบื้องต้น จำนวน 60 ราย ๆ ละ 2,000 บาท รวมทั้งด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. จากการตรวจสอบทางฝ่ายตำรวจได้ความเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุสภาพคลื่นลมปกติ นายดล เริงสมุทร (อายุ 53 ปี) นายท้ายเรือให้การว่า โดยปกติเรือบรรทุกผู้โดยสารได้เพียง 22 คน เท่านั้น แต่บังเอิญวันที่เกิดเหตุที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา มีมวยนัดพิเศษประจำสัปดาห์ จึงมีผู้โดยสารขึ้นเรือเกินอัตราที่กำหนด โดยบรรทุกผู้โดยสารเต็มลำประมาณ 75 คน ได้รับผู้โดยสารจากท่าเรือบางโรง จังหวัดภูเก็ต ไปส่งยังท่าเรือเกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ระหว่างที่แล่นออกจากท่าเรือประมาณ 30 นาที ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว พายุฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับมีลมกระโชกแรงก่อคลื่นสูง 3-4 เมตร ซัดกระหน่ำเข้าด้านข้างของตัวเรือ ต่อมาเรือได้เสียการทรงตัวเอียงขวาและเนื่องจากมีน้ำหนักบรรทุกผู้โดยสารมากทำให้ผู้โดยสารที่นั่งและยืนมากับเรือเสียหลักเอียงล้มไปทางด้านขวาและพลิกคว่ำทางขวา ขณะเกิดเหตุพลิกคว่ำผู้โดยสารหลายคนต่างแย่งสวมเสื้อชูชีพ เนื่องจากบนเรือมีชูชีพไม่พอกับจำนวนคน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
1. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา อำเภอเกาะยาว ตำรวจน้ำ กองตำรวจน้ำ (จ.ภูเก็ต) กองทัพเรือ (กองเรือภาค 3) สำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี (สาขาภูเก็ต) หน่วยกู้ภัยทางทะเล อปพร. และอาสาสมัครต่างๆ นำเรือตรวจการชายฝั่งและเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนับแต่เรือประสบอุบัติเหตุ สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารจำนวนมากที่ลอยคออยู่กลางทะเล จำนวน 65 คน และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเกาะยาว จ.พังงา และโรงพยาบาลวชิระ จ.ภูเก็ต
2. วันที่ 6 มีนาคม 2548 ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ปลัดจังหวัด และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงาและคณะ ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 60 ชุด นอกจากนั้นกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายพงศ์เผ่า เกษทอง) เดินทางไปจังหวัดพังงา เพื่ออำนวยการประสานการให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัยร่วมกับจังหวัดพังงา ในการนี้ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 โดยมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติผู้เสียชีวิตเป็นค่าจัดการศพ 2 ราย ๆ ละ 15,000 บาท เงินปลอบขวัญผู้บาดเจ็บกรณีเข้ารักษาพยาบาลเบื้องต้น จำนวน 60 ราย ๆ ละ 2,000 บาท รวมทั้งด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. จากการตรวจสอบทางฝ่ายตำรวจได้ความเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุสภาพคลื่นลมปกติ นายดล เริงสมุทร (อายุ 53 ปี) นายท้ายเรือให้การว่า โดยปกติเรือบรรทุกผู้โดยสารได้เพียง 22 คน เท่านั้น แต่บังเอิญวันที่เกิดเหตุที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา มีมวยนัดพิเศษประจำสัปดาห์ จึงมีผู้โดยสารขึ้นเรือเกินอัตราที่กำหนด โดยบรรทุกผู้โดยสารเต็มลำประมาณ 75 คน ได้รับผู้โดยสารจากท่าเรือบางโรง จังหวัดภูเก็ต ไปส่งยังท่าเรือเกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ระหว่างที่แล่นออกจากท่าเรือประมาณ 30 นาที ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว พายุฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับมีลมกระโชกแรงก่อคลื่นสูง 3-4 เมตร ซัดกระหน่ำเข้าด้านข้างของตัวเรือ ต่อมาเรือได้เสียการทรงตัวเอียงขวาและเนื่องจากมีน้ำหนักบรรทุกผู้โดยสารมากทำให้ผู้โดยสารที่นั่งและยืนมากับเรือเสียหลักเอียงล้มไปทางด้านขวาและพลิกคว่ำทางขวา ขณะเกิดเหตุพลิกคว่ำผู้โดยสารหลายคนต่างแย่งสวมเสื้อชูชีพ เนื่องจากบนเรือมีชูชีพไม่พอกับจำนวนคน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--