คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอว่า
1. มาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550 กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 166 — 2549 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับที่ 3310 (พ.ศ. 2547) ซึ่ง มอก. 166 — 2549 ได้อ้างถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกัน : ข้อกำหนดทั่วไปมาตรฐานเลขที่ มอก. 2162 — 2547 ซึ่งมีข้อกำหนดบางข้ออ้างอิงวิธีทดสอบตามมาตรฐาน IEC ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ
2. ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเพิกถอนมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสวิตช์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2547 ที่อ้างถึงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 1459 (พ.ศ. 2531) ซึ่งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสวิตช์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 824 — 2531 แต่ในส่วนที่เป็นการกำหนดมาตรฐานการทดสอบ ตามเอกสารแนบท้ายประกาศกระทรวงดังกล่าวกำหนดไว้ในข้อ 5.12 สั้น ๆ แต่เพียงว่าการทดสอบให้ปฏิบัติตาม IEC 669 — 1 โดยมิได้มีการนำมากำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายประกาศกระทรวงดังกล่าวว่ามาตรฐานการทดสอบ IEC 669 — 1 ที่อ้างถึงนั้นเป็นอย่างไร และมิได้มีการนำมาตรฐานการทดสอบดังกล่าวไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา อีกทั้งเอกสารที่กำหนดมาตรฐานการทดสอบ IEC 669 — 1 ยังกำหนดไว้เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัดว่ามาตรฐานการทดสอบที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร กรณีจึงขัดกับหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่าการกำหนดกฎหมายให้ประชาชนหรือบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตาม หากผู้ใดฝ่าฝืนผู้นั้นจะต้องได้รับโทษ จะต้องมีความชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้ และต้องมีการประกาศกฎหมายนั้นให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับทราบโดยทั่วกัน อีกทั้งยังเป็นการขัดต่อหลักการตรากฎหมายไทยที่ต้องกระทำเป็นภาษาไทยด้วย
3. เพื่อให้พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550 เป็นไปตามแนวคำพิพากษาของศาลปกครอง สูงสุด สมควรยกเลิกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงให้มีความถูกต้องต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มีนาคม 2551--จบ--
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอว่า
1. มาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550 กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 166 — 2549 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับที่ 3310 (พ.ศ. 2547) ซึ่ง มอก. 166 — 2549 ได้อ้างถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกัน : ข้อกำหนดทั่วไปมาตรฐานเลขที่ มอก. 2162 — 2547 ซึ่งมีข้อกำหนดบางข้ออ้างอิงวิธีทดสอบตามมาตรฐาน IEC ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ
2. ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเพิกถอนมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสวิตช์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2547 ที่อ้างถึงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 1459 (พ.ศ. 2531) ซึ่งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสวิตช์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 824 — 2531 แต่ในส่วนที่เป็นการกำหนดมาตรฐานการทดสอบ ตามเอกสารแนบท้ายประกาศกระทรวงดังกล่าวกำหนดไว้ในข้อ 5.12 สั้น ๆ แต่เพียงว่าการทดสอบให้ปฏิบัติตาม IEC 669 — 1 โดยมิได้มีการนำมากำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายประกาศกระทรวงดังกล่าวว่ามาตรฐานการทดสอบ IEC 669 — 1 ที่อ้างถึงนั้นเป็นอย่างไร และมิได้มีการนำมาตรฐานการทดสอบดังกล่าวไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา อีกทั้งเอกสารที่กำหนดมาตรฐานการทดสอบ IEC 669 — 1 ยังกำหนดไว้เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัดว่ามาตรฐานการทดสอบที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร กรณีจึงขัดกับหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่าการกำหนดกฎหมายให้ประชาชนหรือบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตาม หากผู้ใดฝ่าฝืนผู้นั้นจะต้องได้รับโทษ จะต้องมีความชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้ และต้องมีการประกาศกฎหมายนั้นให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับทราบโดยทั่วกัน อีกทั้งยังเป็นการขัดต่อหลักการตรากฎหมายไทยที่ต้องกระทำเป็นภาษาไทยด้วย
3. เพื่อให้พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550 เป็นไปตามแนวคำพิพากษาของศาลปกครอง สูงสุด สมควรยกเลิกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงให้มีความถูกต้องต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกันต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2550
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มีนาคม 2551--จบ--