คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้งปี 2551 ช่วงวันที่ 17-24 มีนาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์น้ำ ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2551 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 46,275 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (51,085 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4,810 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 7,887 และ 5,098 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 59 และ 54 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 12,985 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปี 2550 (16,633 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,648 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 จำนวน 7 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก
ชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 22,39,32,39,35,32 และ 37 ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับช่วงฤดูแล้งนี้
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ หนองค้อ มาบประชัน หนองกลางดง ชากนอก ห้วยขุนจิต และห้วยสะพาน มีปริมาตรน้ำรวม 72.29 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ คาดว่าเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยองและลุ่มน้ำประแสร์ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ดอกกราย คลองใหญ่ และประแสร์ มีปริมาตรน้ำรวม 315.26 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ คาดว่าเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือ 125 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤติ แนวโน้มลดลง และบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง บริเวณอำเภอแจ้ห่ม เมือง จังหวัดลำปาง และอำเภอสามเงา จังหวัดตากปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอเมือง วังทอง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมือง บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอหล่มเก่า หล่มสัก เมือง วิเชียรบุรี หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชัยบาดาล วังม่วง จังหวัดสระบุรี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำชี บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อำเภอมัญจาคีรี เมือง จังหวัดขอนแก่น อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล บริเวณอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อำเภอลำปลายมาศ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ อำเภอห้วยทับทัน ราศีไศล เมือง กันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
3. คุณภาพน้ำ
สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา 0.200 กรัม/ลิตร แม่น้ำท่าจีน 0.173 กรัม/ลิตร แม่น้ำแม่กลอง 0.058 กรัม/ลิตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2551 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 — 24 มีนาคม 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 13.68 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 6%) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 11.26 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 12%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.42 ล้านไร่ (86%ของพื้นที่คาดการณ์) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 8.68 0.9 0.74 8.43 9.42
นอกเขตชลประทาน 2.5 2.58 1.9 1.68 4.4 4.26
รวม 10.03 11.26 2.8 2.42 12.83 13.68
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 - 20 มีนาคม 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แพร่ ชัยนาท ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว และกาญจนบุรี ได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ฉะเชิงเทรา และนครนายก และยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ชัยนาท สระแก้ว และกาญจนบุรี เกษตรกรประสบภัย จำนวน 9,484 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 130,858 ไร่ แยกเป็น ข้าว 117,648 ไร่ พืชไร่ 12,798 ไร่ และพืชสวน 412 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 2 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย เกษตรกรประสบภัย จำนวน 160 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,001 ตัว แยกเป็นโค 1,918 ตัว และ แพะ 1,083 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว 57 จังหวัด จำนวน 801 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 220 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 303 เครื่อง ภาคกลาง 11 จังหวัด จำนวน 131 เครื่อง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด จำนวน 62 เครื่อง ภาคตะวันตก 3 จังหวัด จำนวน 47 เครื่อง และภาคใต้ 4 จังหวัด จำนวน 38 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 32 คัน เป็นการช่วยเหลือเพื่ออุปโภคบริโภค 1 จังหวัด คือ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 17.643 ล้านลิตร เป็นการช่วยเหลือสวนผลไม้ในภาคตะวันออก 4 จังหวัด จำนวน 22 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 14 คัน นครนายก 1 คัน และตราด 5 คัน
2. การสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
สนับสนุนเสบียงสัตว์ 36,520 กิโลกรัม และดูแลสุขภาพสัตว์ 300 ตัว
3. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 20 มีนาคม 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ) ได้แก่ ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯพิษณุโลก ภาคกลาง หน่วยฯนครสวรรค์ ภาคตะวันออก- เฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯนครราชสีมา ภาคตะวันออก หน่วยฯระยอง ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯหัวหิน และภาคใต้ตอนล่าง หน่วยฯสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย(ต่ำกว่า 30% ของความจุอ่างฯ) คือ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ และการบรรเทาปัญหามลภาวะในภาคเหนือ
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์—20 มีนาคม 2551 ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 44 วัน 625 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 271 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-98.3 มิลลิเมตรในพื้นที่ 48 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก สุโขทัย น่าน กำแพงเพชร พิจิตร แพร่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ระนอง ตรัง สตูล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มีนาคม 2551--จบ--
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2551 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 46,275 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (51,085 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4,810 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 7,887 และ 5,098 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 59 และ 54 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 12,985 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปี 2550 (16,633 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,648 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 จำนวน 7 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก
ชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 22,39,32,39,35,32 และ 37 ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับช่วงฤดูแล้งนี้
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ หนองค้อ มาบประชัน หนองกลางดง ชากนอก ห้วยขุนจิต และห้วยสะพาน มีปริมาตรน้ำรวม 72.29 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ คาดว่าเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยองและลุ่มน้ำประแสร์ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ดอกกราย คลองใหญ่ และประแสร์ มีปริมาตรน้ำรวม 315.26 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ คาดว่าเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือ 125 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤติ แนวโน้มลดลง และบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง บริเวณอำเภอแจ้ห่ม เมือง จังหวัดลำปาง และอำเภอสามเงา จังหวัดตากปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอเมือง วังทอง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมือง บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอหล่มเก่า หล่มสัก เมือง วิเชียรบุรี หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชัยบาดาล วังม่วง จังหวัดสระบุรี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำชี บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อำเภอมัญจาคีรี เมือง จังหวัดขอนแก่น อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล บริเวณอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อำเภอลำปลายมาศ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ อำเภอห้วยทับทัน ราศีไศล เมือง กันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยวิกฤต แนวโน้มลดลง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
3. คุณภาพน้ำ
สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา 0.200 กรัม/ลิตร แม่น้ำท่าจีน 0.173 กรัม/ลิตร แม่น้ำแม่กลอง 0.058 กรัม/ลิตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2551 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 — 24 มีนาคม 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 13.68 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 6%) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 11.26 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 12%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.42 ล้านไร่ (86%ของพื้นที่คาดการณ์) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 8.68 0.9 0.74 8.43 9.42
นอกเขตชลประทาน 2.5 2.58 1.9 1.68 4.4 4.26
รวม 10.03 11.26 2.8 2.42 12.83 13.68
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 - 20 มีนาคม 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แพร่ ชัยนาท ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว และกาญจนบุรี ได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ฉะเชิงเทรา และนครนายก และยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ชัยนาท สระแก้ว และกาญจนบุรี เกษตรกรประสบภัย จำนวน 9,484 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 130,858 ไร่ แยกเป็น ข้าว 117,648 ไร่ พืชไร่ 12,798 ไร่ และพืชสวน 412 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 2 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย เกษตรกรประสบภัย จำนวน 160 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,001 ตัว แยกเป็นโค 1,918 ตัว และ แพะ 1,083 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว 57 จังหวัด จำนวน 801 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 220 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 303 เครื่อง ภาคกลาง 11 จังหวัด จำนวน 131 เครื่อง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด จำนวน 62 เครื่อง ภาคตะวันตก 3 จังหวัด จำนวน 47 เครื่อง และภาคใต้ 4 จังหวัด จำนวน 38 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 32 คัน เป็นการช่วยเหลือเพื่ออุปโภคบริโภค 1 จังหวัด คือ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 17.643 ล้านลิตร เป็นการช่วยเหลือสวนผลไม้ในภาคตะวันออก 4 จังหวัด จำนวน 22 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 14 คัน นครนายก 1 คัน และตราด 5 คัน
2. การสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
สนับสนุนเสบียงสัตว์ 36,520 กิโลกรัม และดูแลสุขภาพสัตว์ 300 ตัว
3. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 20 มีนาคม 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ) ได้แก่ ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯพิษณุโลก ภาคกลาง หน่วยฯนครสวรรค์ ภาคตะวันออก- เฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯนครราชสีมา ภาคตะวันออก หน่วยฯระยอง ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯหัวหิน และภาคใต้ตอนล่าง หน่วยฯสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย(ต่ำกว่า 30% ของความจุอ่างฯ) คือ อ่างเก็บน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ และการบรรเทาปัญหามลภาวะในภาคเหนือ
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์—20 มีนาคม 2551 ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 44 วัน 625 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 271 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-98.3 มิลลิเมตรในพื้นที่ 48 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก สุโขทัย น่าน กำแพงเพชร พิจิตร แพร่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ระนอง ตรัง สตูล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มีนาคม 2551--จบ--