คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้นำข้าวสารคงเหลือในโครงการรับจำนำของรัฐบาลมาผลิตข้าวสารบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภคทั่วไป ดังนี้
1. ชนิดข้าว ได้แก่ ข้าวขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวที่ผู้บริโภคในประเทศส่วนใหญ่ใช้บริโภค (ประมาณร้อยละ 70 ของการบริโภคทั้งหมด) โดยใช้ข้าวจากโครงการนาปี ปี 2549/50 และโครงการนาปรัง ปี 2550 เนื่องจากมีปริมาณเพียงพอ (และมีต้นทุนต่ำกว่าโครงการฯ นาปรัง ปี 2549)
2. ปริมาณ ใช้ข้าวสารคงเหลือของรัฐบาล ประมาณ 650,000 ตัน ซึ่งประมาณการจากร้อยละ 10 ของปริมาณการบริโภคข้าวสารเจ้าภายในประเทศแต่ละปี (อัตราการบริโภคคนละ 104 กก./ปีคูณจำนวนประชากรประมาณ 63 ล้านคน) โดยทยอยให้ผลิตออกจำหน่ายประมาณเดือนละ 100,000 ตันหรือ 20,000,000 ถุง/เดือน
3. ราคาจำหน่าย เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคมีแนวทางพิจารณา โดยกำหนดราคาจำหน่ายในราคาต้นทุน รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
4. หน่วยงานดำเนินการ โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำของรัฐมาจัดทำเป็นข้าวสารบรรจุถุงจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค
5. วิธีการจำหน่าย จัดส่งข้าวสารพาณิชย์จำหน่ายทั่วประเทศ โดยผ่าน อคส. พาณิชย์จังหวัดและการค้าภายในจังหวัด เพื่อให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลางสามารถหาซื้อได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดภาวะความตึงตัวของภาวะการค้าข้าวทั่วโลก เนื่องจากเกิดปัญหาความแห้งแล้งในประเทศผู้ผลิตและผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญอื่น ๆ ส่งผลให้หลายประเทศมีความต้องการสั่งซื้อข้าวของไทยเพิ่มขึ้นมาก โดยราคาข้าวได้ขยับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เป็นต้นมา ปัจจุบัน (26 มี.ค.51) ราคา F.O.B. ข้าวหอมมะลิตันละ 904 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 611 เหรียญสหรัฐ และข้าวนึ่ง 100% ตันละ 656 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีประมาณร้อยละ 34.52, 46.17 และ 18.18 ตามลำดับ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิขณะนี้ (28 มี.ค.51) ราคาตันละ 14,300-15,600 บาท และข้าวเปลือกเจ้า 5% นาปรัง ราคาตันละ 10,700-12,000 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 63.39 และ 80.16 ตามลำดับ ในขณะที่ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคา 100 กก.ละ 2,655-2,665 บาท ข้าวขาว 5% ราคา 100 กก.ละ 1,900-1,905 บาท และข้าวนึ่ง 100% ราคา 100 กก.ละ 2,045-2,050 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 48.60 , 89.73 และร้อยละ 90.51 ตามลำดับ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อไปอีก
ปริมาณข้าวคงเหลือ ณ วันที่ 19 มีนาคม 2551 ปริมาณข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มีทั้งสิ้น 2.1 ล้านตัน โดยเป็นข้าวสารในโกดังกลางของ อคส. จำนวน 1.964 ล้านตัน และเป็นข้าวเปลือกและข้าวสารในโรงสี 0.145 ล้านตัน
ปริมาณการบริโภคภายในประเทศ ความต้องการใช้ข้าวภายในประเทศปี 2550 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประมาณการว่ามีประมาณ 11.21 ล้านตันข้าวสาร เมื่อหักใช้ทำพันธุ์และใช้ในกิจการอื่น ๆ ประมาณการว่าจะมีความต้องการใช้บริโภคประมาณ 6 ล้านตันต่อปี โดยอัตราการบริโภคข้าวเฉลี่ย 104 กก./คน/ปี ประชากรไทย 63 ล้านคนจะบริโภคข้าวประมาณ 6.55 ล้านตัน/ปี
ราคาข้าวสารบรรจุถุงในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ราคาข้าวสารขาว 5% บรรจุถุง 5 กก. ประมาณถุงละ 76-88 บาท สูงกว่าระยะเดียวกันในปีที่แล้วที่มีราคาถุงละ 65-70 บาท และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกตามราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 เมษายน 2551--จบ--
1. ชนิดข้าว ได้แก่ ข้าวขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวที่ผู้บริโภคในประเทศส่วนใหญ่ใช้บริโภค (ประมาณร้อยละ 70 ของการบริโภคทั้งหมด) โดยใช้ข้าวจากโครงการนาปี ปี 2549/50 และโครงการนาปรัง ปี 2550 เนื่องจากมีปริมาณเพียงพอ (และมีต้นทุนต่ำกว่าโครงการฯ นาปรัง ปี 2549)
2. ปริมาณ ใช้ข้าวสารคงเหลือของรัฐบาล ประมาณ 650,000 ตัน ซึ่งประมาณการจากร้อยละ 10 ของปริมาณการบริโภคข้าวสารเจ้าภายในประเทศแต่ละปี (อัตราการบริโภคคนละ 104 กก./ปีคูณจำนวนประชากรประมาณ 63 ล้านคน) โดยทยอยให้ผลิตออกจำหน่ายประมาณเดือนละ 100,000 ตันหรือ 20,000,000 ถุง/เดือน
3. ราคาจำหน่าย เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคมีแนวทางพิจารณา โดยกำหนดราคาจำหน่ายในราคาต้นทุน รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
4. หน่วยงานดำเนินการ โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำของรัฐมาจัดทำเป็นข้าวสารบรรจุถุงจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค
5. วิธีการจำหน่าย จัดส่งข้าวสารพาณิชย์จำหน่ายทั่วประเทศ โดยผ่าน อคส. พาณิชย์จังหวัดและการค้าภายในจังหวัด เพื่อให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลางสามารถหาซื้อได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดภาวะความตึงตัวของภาวะการค้าข้าวทั่วโลก เนื่องจากเกิดปัญหาความแห้งแล้งในประเทศผู้ผลิตและผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญอื่น ๆ ส่งผลให้หลายประเทศมีความต้องการสั่งซื้อข้าวของไทยเพิ่มขึ้นมาก โดยราคาข้าวได้ขยับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เป็นต้นมา ปัจจุบัน (26 มี.ค.51) ราคา F.O.B. ข้าวหอมมะลิตันละ 904 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 611 เหรียญสหรัฐ และข้าวนึ่ง 100% ตันละ 656 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีประมาณร้อยละ 34.52, 46.17 และ 18.18 ตามลำดับ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิขณะนี้ (28 มี.ค.51) ราคาตันละ 14,300-15,600 บาท และข้าวเปลือกเจ้า 5% นาปรัง ราคาตันละ 10,700-12,000 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 63.39 และ 80.16 ตามลำดับ ในขณะที่ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคา 100 กก.ละ 2,655-2,665 บาท ข้าวขาว 5% ราคา 100 กก.ละ 1,900-1,905 บาท และข้าวนึ่ง 100% ราคา 100 กก.ละ 2,045-2,050 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 48.60 , 89.73 และร้อยละ 90.51 ตามลำดับ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อไปอีก
ปริมาณข้าวคงเหลือ ณ วันที่ 19 มีนาคม 2551 ปริมาณข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มีทั้งสิ้น 2.1 ล้านตัน โดยเป็นข้าวสารในโกดังกลางของ อคส. จำนวน 1.964 ล้านตัน และเป็นข้าวเปลือกและข้าวสารในโรงสี 0.145 ล้านตัน
ปริมาณการบริโภคภายในประเทศ ความต้องการใช้ข้าวภายในประเทศปี 2550 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประมาณการว่ามีประมาณ 11.21 ล้านตันข้าวสาร เมื่อหักใช้ทำพันธุ์และใช้ในกิจการอื่น ๆ ประมาณการว่าจะมีความต้องการใช้บริโภคประมาณ 6 ล้านตันต่อปี โดยอัตราการบริโภคข้าวเฉลี่ย 104 กก./คน/ปี ประชากรไทย 63 ล้านคนจะบริโภคข้าวประมาณ 6.55 ล้านตัน/ปี
ราคาข้าวสารบรรจุถุงในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ราคาข้าวสารขาว 5% บรรจุถุง 5 กก. ประมาณถุงละ 76-88 บาท สูงกว่าระยะเดียวกันในปีที่แล้วที่มีราคาถุงละ 65-70 บาท และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกตามราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 เมษายน 2551--จบ--