คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานสรุปผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2550 ดังนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2550 เพื่อเก็บข้อมูล เกี่ยวกับรายได้ รายจ่าย ภาวะหนี้สินของครัวเรือน ตลอดจนลักษณะที่อยู่อาศัยโดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกเดือน (มกราคม-ธันวาคม 2550) จากครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศทั้งในเขต และนอกเขตเทศบาล จำนวน 52,000 ครัวเรือน ซึ่งสรุปผลการสำรวจที่สำคัญ ได้ดังนี้
ร้อยละครัวเรือนที่มีหนี้ ปี 2550
จากผลการสำรวจ ในปี 2550 พบว่า ครัวเรือนที่มีหนี้สินมีร้อยละ 63.3 โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 116,681 บาทต่อครัวเรือน
การเปรียบเทียบอัตราร้อยละของครัวเรือนที่มีหนี้และจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น ปี 2541-2550
ในภาพรวมครัวเรือนที่มีหนี้ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2547 จากร้อยละ 55.1 เป็น 66.4 แต่ได้ลดลงเป็นร้อยละ 64.4 ในปี 2549 และเป็นร้อยละ 63.3 ในปี 2550 โดยจำนวนเงินที่เป็นหนี้เพิ่มจาก 82,485 บาทในปี 2545 เป็น 116,585 บาท ในปี 2549 และเริ่มชะลอตัวในปี 2550
หนี้สินของครัวเรือน ปี 2550
จากครัวเรือนทั่วประเทศที่เกินครึ่ง (ร้อยละ 63.3) มีหนี้สิน ส่วนใหญ่เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและใช้ในการซื้อบ้าน/ที่ดินใกล้เคียงกันคือร้อยละ 33.3 และ 31.3 ตามลำดับ รองลงมาใช้ทำการเกษตรร้อยละ 15.2 และใช้ทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตรร้อยละ 14.4 สำหรับหนี้เพื่อใช้ในการศึกษามีเพียงร้อยละ 2.7 เท่านั้น
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินต่อรายได้ ปี 2541-2550
เมื่อเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินต่อรายได้ พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2550 มีรายได้เฉลี่ยมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยังชีพ พบว่า รายได้และค่าใช้จ่ายฯ ตั้งแต่ปี 2545 ถึง 2550 เพิ่มขึ้นคือ รายได้เพิ่มจาก 13,736 เป็น 18,660 บาท และค่าใช้จ่ายฯ เพิ่มจาก 10,889 เป็น 14,500 บาท ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาผลต่างของรายได้ และค่าใช้จ่ายฯ ในปี 2550 พบว่า รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยังชีพอยู่เพียง 4,160 บาทต่อครัวเรือน หรือประมาณ 1,300 บาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้
หนี้สินต่อรายได้ครัวเรือนในปี 2547 จะสูงสุดเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีแนวโน้มลดลง เรื่อย ๆ เป็น 6.6 และ 6.3 เท่า ในปี 2549 และ 2550 ตามลำดับ
การเปลี่ยนแปลงรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2549-2550
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือนทั่วประเทศ พบว่ารายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากปี 2549 โดยรายได้มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าใช้จ่าย คือรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.3 ต่อปี ทำให้สัดส่วนของค่าใช้จ่าย/รายได้ลดลงจากร้อยละ 80.5 ในปี 2549 เป็น 77.7 ในปี 2550 ส่วนภาวะการเป็นหนี้ของครัวเรือนมีแนวโน้มดีขึ้น คือจำนวนครัวเรือนที่เป็นหนี้ลดลงร้อยละ 1.7 จำนวนเงินที่เป็นหนี้ใกล้เคียงกัน คือจาก 116,585 เป็น 116,681 บาทต่อครัวเรือน และจำนวนหนี้สินต่อรายได้ลดลงร้อยละ 4.5
การเปรียบเทียบการกระจายรายได้ของครัวเรือน ปี 2549-2550
ในการวิเคราะห์การกระจายรายได้ โดยได้จัดแบ่งครัวเรือนทั่วประเทศเป็น 5 กลุ่มเท่า ๆ กัน และนำมาเรียงลำดับตามรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนจากน้อยไปมาก (กลุ่มที่ 1 มีรายได้ต่ำสุด และกลุ่มที่ 5 มีรายได้สูงสุด) พบว่า กลุ่มที่มีรายได้สูงสุด มีส่วนแบ่งของรายได้ประมาณร้อยละ 49.2 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุด มีส่วนแบ่งของรายได้เพียงร้อยละ 5.7 แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าความเหลื่อมล้ำของรายได้มีแนวโน้มลดลง กล่าวคือครัวเรือนกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดมีส่วนแบ่งของรายได้ลดลงจากร้อยละ 50.9 เป็นร้อยละ 49.2 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุดมีส่วนแบ่งของรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 5.7 ในปี 2550 และพบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ของความไม่เสมอภาค (Gini Coefficient) ด้านการกระจายรายได้ของ ครัวเรือนทั่วประเทศ มีค่าลดลง คือจาก 0.439 ในปี 2549 เป็น 0.418 ในปี 2550
สำหรับรายได้ประจำต่อคนต่อเดือน โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 5,245 บาทในปี 2549 เป็น 5,494 บาท ในปี 2550 โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม คือครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด มีรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 16,574 บาท เป็น 16,905 บาท และครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด มีรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 1,111 บาท เป็น 1,310 บาท
รายได้ครัวเรือน ปี 2550
ครัวเรือนทั่วประเทศ ในปี 2550 มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 18,660 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำงาน (ร้อยละ 71.6) ซึ่งได้แก่ ค่าจ้างเงินเดือน (ร้อยละ 39.9) จากการทำธุรกิจ (ร้อยละ 20.8) และจากการทำการเกษตร (ร้อยละ 10.9) และมีรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทำงาน เช่น เงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นนอกครัวเรือน/รัฐ (ร้อยละ 9.9) รายได้จากทรัพย์สิน เช่น ดอกเบี้ย (ร้อยละ 2.0) นอกจากนั้นยังมีรายได้ในรูปสวัสดิการ/สินค้าและบริการต่าง ๆ (ร้อยละ 14.5)
ค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ปี 2550
ครัวเรือนทั่วประเทศ ในปี 2550 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 14,500 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ร้อยละ 33.0 เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ซึ่งในจำนวนนี้มีค่าเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ร้อยละ 1.3) รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน (ร้อยละ 20.1) ใช้เกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ (ร้อยละ 18.2) ใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่ม/รองเท้า (ร้อยละ 5.6) ในการสื่อสารร้อยละ 3.4 ใช้ในการบันเทิง/การจัดงานพิธีร้อยละ 2.5 ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและกิจกรรมทางศาสนามีเพียงร้อยละ 2.1 และ 1.0 ตามลำดับ สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกันภัย ซื้อสลากกินแบ่ง/หวย ดอกเบี้ย ร้อยละ 12.2
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2550 รายภาค
เมื่อพิจารณารายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือนเป็นรายภาค พบว่า กรุงเทพฯ และ 3 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีรายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยสูงกว่าภาคอื่นมาก คือ 35,007 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายและจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงสุดเช่นเดียวกัน คือ 23,996 และ 151,168 บาท ตามลำดับ และมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้ร้อยละ 68.6 และพบว่า ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีรายได้ค่าใช้จ่ายและหนี้สินต่ำสุด โดยมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้สูงถึงร้อยละ 84.0 ซึ่งจะทำให้เกิดการออม หรือชำระหนี้ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ (ภาคกลาง/ใต้/เหนือ อยู่ระหว่างร้อยละ 80-81)
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2550 ตามสถานะทางเศรษฐสังคมของครัวเรือน (ตามอาชีพ)
เมื่อพิจารณาตามอาชีพ พบว่า ครัวเรือนลูกจ้างที่ปฏิบัติงานวิชาชีพ/นักวิชาการ/นักบริหาร มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 42,863 บาท รองลงมาได้แก่ ครัวเรือนของผู้ดำเนินธุรกิจที่ไม่ใช่เกษตร เสมียน/พนักงาน/ผู้ให้บริการและผู้ปฏิบัติงานในขบวนการผลิต (25,208 19,311 และ 14,095 บาท ตามลำดับ) และรายได้ต่ำสุด คือครัวเรือน ผู้ทำประมง/ป่าไม้/ล่าสัตว์/หาของป่า (9,185 บาท) และพบว่า ครัวเรือนอาชีพใดมีรายได้สูง ส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายและจำนวนเงินที่เป็นหนี้สูงเช่นเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 เมษายน 2551--จบ--
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2550 เพื่อเก็บข้อมูล เกี่ยวกับรายได้ รายจ่าย ภาวะหนี้สินของครัวเรือน ตลอดจนลักษณะที่อยู่อาศัยโดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกเดือน (มกราคม-ธันวาคม 2550) จากครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศทั้งในเขต และนอกเขตเทศบาล จำนวน 52,000 ครัวเรือน ซึ่งสรุปผลการสำรวจที่สำคัญ ได้ดังนี้
ร้อยละครัวเรือนที่มีหนี้ ปี 2550
จากผลการสำรวจ ในปี 2550 พบว่า ครัวเรือนที่มีหนี้สินมีร้อยละ 63.3 โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 116,681 บาทต่อครัวเรือน
การเปรียบเทียบอัตราร้อยละของครัวเรือนที่มีหนี้และจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น ปี 2541-2550
ในภาพรวมครัวเรือนที่มีหนี้ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2547 จากร้อยละ 55.1 เป็น 66.4 แต่ได้ลดลงเป็นร้อยละ 64.4 ในปี 2549 และเป็นร้อยละ 63.3 ในปี 2550 โดยจำนวนเงินที่เป็นหนี้เพิ่มจาก 82,485 บาทในปี 2545 เป็น 116,585 บาท ในปี 2549 และเริ่มชะลอตัวในปี 2550
หนี้สินของครัวเรือน ปี 2550
จากครัวเรือนทั่วประเทศที่เกินครึ่ง (ร้อยละ 63.3) มีหนี้สิน ส่วนใหญ่เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและใช้ในการซื้อบ้าน/ที่ดินใกล้เคียงกันคือร้อยละ 33.3 และ 31.3 ตามลำดับ รองลงมาใช้ทำการเกษตรร้อยละ 15.2 และใช้ทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตรร้อยละ 14.4 สำหรับหนี้เพื่อใช้ในการศึกษามีเพียงร้อยละ 2.7 เท่านั้น
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินต่อรายได้ ปี 2541-2550
เมื่อเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินต่อรายได้ พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2550 มีรายได้เฉลี่ยมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยังชีพ พบว่า รายได้และค่าใช้จ่ายฯ ตั้งแต่ปี 2545 ถึง 2550 เพิ่มขึ้นคือ รายได้เพิ่มจาก 13,736 เป็น 18,660 บาท และค่าใช้จ่ายฯ เพิ่มจาก 10,889 เป็น 14,500 บาท ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาผลต่างของรายได้ และค่าใช้จ่ายฯ ในปี 2550 พบว่า รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยังชีพอยู่เพียง 4,160 บาทต่อครัวเรือน หรือประมาณ 1,300 บาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้
หนี้สินต่อรายได้ครัวเรือนในปี 2547 จะสูงสุดเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีแนวโน้มลดลง เรื่อย ๆ เป็น 6.6 และ 6.3 เท่า ในปี 2549 และ 2550 ตามลำดับ
การเปลี่ยนแปลงรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2549-2550
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือนทั่วประเทศ พบว่ารายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากปี 2549 โดยรายได้มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าใช้จ่าย คือรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.3 ต่อปี ทำให้สัดส่วนของค่าใช้จ่าย/รายได้ลดลงจากร้อยละ 80.5 ในปี 2549 เป็น 77.7 ในปี 2550 ส่วนภาวะการเป็นหนี้ของครัวเรือนมีแนวโน้มดีขึ้น คือจำนวนครัวเรือนที่เป็นหนี้ลดลงร้อยละ 1.7 จำนวนเงินที่เป็นหนี้ใกล้เคียงกัน คือจาก 116,585 เป็น 116,681 บาทต่อครัวเรือน และจำนวนหนี้สินต่อรายได้ลดลงร้อยละ 4.5
การเปรียบเทียบการกระจายรายได้ของครัวเรือน ปี 2549-2550
ในการวิเคราะห์การกระจายรายได้ โดยได้จัดแบ่งครัวเรือนทั่วประเทศเป็น 5 กลุ่มเท่า ๆ กัน และนำมาเรียงลำดับตามรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนจากน้อยไปมาก (กลุ่มที่ 1 มีรายได้ต่ำสุด และกลุ่มที่ 5 มีรายได้สูงสุด) พบว่า กลุ่มที่มีรายได้สูงสุด มีส่วนแบ่งของรายได้ประมาณร้อยละ 49.2 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุด มีส่วนแบ่งของรายได้เพียงร้อยละ 5.7 แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าความเหลื่อมล้ำของรายได้มีแนวโน้มลดลง กล่าวคือครัวเรือนกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดมีส่วนแบ่งของรายได้ลดลงจากร้อยละ 50.9 เป็นร้อยละ 49.2 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุดมีส่วนแบ่งของรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 5.7 ในปี 2550 และพบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ของความไม่เสมอภาค (Gini Coefficient) ด้านการกระจายรายได้ของ ครัวเรือนทั่วประเทศ มีค่าลดลง คือจาก 0.439 ในปี 2549 เป็น 0.418 ในปี 2550
สำหรับรายได้ประจำต่อคนต่อเดือน โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 5,245 บาทในปี 2549 เป็น 5,494 บาท ในปี 2550 โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม คือครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด มีรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 16,574 บาท เป็น 16,905 บาท และครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด มีรายได้ประจำต่อคนต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 1,111 บาท เป็น 1,310 บาท
รายได้ครัวเรือน ปี 2550
ครัวเรือนทั่วประเทศ ในปี 2550 มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 18,660 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำงาน (ร้อยละ 71.6) ซึ่งได้แก่ ค่าจ้างเงินเดือน (ร้อยละ 39.9) จากการทำธุรกิจ (ร้อยละ 20.8) และจากการทำการเกษตร (ร้อยละ 10.9) และมีรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทำงาน เช่น เงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นนอกครัวเรือน/รัฐ (ร้อยละ 9.9) รายได้จากทรัพย์สิน เช่น ดอกเบี้ย (ร้อยละ 2.0) นอกจากนั้นยังมีรายได้ในรูปสวัสดิการ/สินค้าและบริการต่าง ๆ (ร้อยละ 14.5)
ค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ปี 2550
ครัวเรือนทั่วประเทศ ในปี 2550 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 14,500 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ร้อยละ 33.0 เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ซึ่งในจำนวนนี้มีค่าเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ร้อยละ 1.3) รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน (ร้อยละ 20.1) ใช้เกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ (ร้อยละ 18.2) ใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่ม/รองเท้า (ร้อยละ 5.6) ในการสื่อสารร้อยละ 3.4 ใช้ในการบันเทิง/การจัดงานพิธีร้อยละ 2.5 ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและกิจกรรมทางศาสนามีเพียงร้อยละ 2.1 และ 1.0 ตามลำดับ สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกันภัย ซื้อสลากกินแบ่ง/หวย ดอกเบี้ย ร้อยละ 12.2
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2550 รายภาค
เมื่อพิจารณารายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือนเป็นรายภาค พบว่า กรุงเทพฯ และ 3 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีรายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยสูงกว่าภาคอื่นมาก คือ 35,007 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายและจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงสุดเช่นเดียวกัน คือ 23,996 และ 151,168 บาท ตามลำดับ และมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้ร้อยละ 68.6 และพบว่า ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีรายได้ค่าใช้จ่ายและหนี้สินต่ำสุด โดยมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้สูงถึงร้อยละ 84.0 ซึ่งจะทำให้เกิดการออม หรือชำระหนี้ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ (ภาคกลาง/ใต้/เหนือ อยู่ระหว่างร้อยละ 80-81)
การเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ปี 2550 ตามสถานะทางเศรษฐสังคมของครัวเรือน (ตามอาชีพ)
เมื่อพิจารณาตามอาชีพ พบว่า ครัวเรือนลูกจ้างที่ปฏิบัติงานวิชาชีพ/นักวิชาการ/นักบริหาร มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 42,863 บาท รองลงมาได้แก่ ครัวเรือนของผู้ดำเนินธุรกิจที่ไม่ใช่เกษตร เสมียน/พนักงาน/ผู้ให้บริการและผู้ปฏิบัติงานในขบวนการผลิต (25,208 19,311 และ 14,095 บาท ตามลำดับ) และรายได้ต่ำสุด คือครัวเรือน ผู้ทำประมง/ป่าไม้/ล่าสัตว์/หาของป่า (9,185 บาท) และพบว่า ครัวเรือนอาชีพใดมีรายได้สูง ส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายและจำนวนเงินที่เป็นหนี้สูงเช่นเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 เมษายน 2551--จบ--