คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ
พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. ... มีสาระสำคัญ
ดังนี้
1. กำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมโครงการให้เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการต้องเป็นข้าราชการในสังกัดส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
1.1 ส่วนราชการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกจากระบบราชการ
1.2 ส่วนราชการที่ประสงค์จะยุบเลิกบางภารกิจ
1.3 ส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเกินความจำเป็น หรือ
1.4 ส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวน
ข้าราชการทั้งหมดของส่วนราชการนั้น
2. กำหนดคุณสมบัติของข้าราชการซึ่งจะเข้าร่วมโครงการโดยต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปหรือมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ให้นับถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ และมีเวลาราชการที่เหลือไม่น้อยกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ โดยวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการต้องอยู่ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของโครงการ และกำหนดลักษณะต้องห้ามของข้าราชการ ซึ่งจะเข้าร่วมโครงการ เช่น ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการและไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการ เป็นต้น
3. กำหนดให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการตามโครงการเป็นจำนวน = (จำนวนปีของเวลาราชการที่เหลือ + 8) X เงินเดือนเดือนสุดท้าย แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย
4. กำหนดให้โครงการฯ ที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเป็นโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ และให้ข้าราชการซึ่งแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการดังกล่าวก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เป็นการแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้
5. พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 เมษายน 2551--จบ--
พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. ... มีสาระสำคัญ
ดังนี้
1. กำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมโครงการให้เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการต้องเป็นข้าราชการในสังกัดส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
1.1 ส่วนราชการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกจากระบบราชการ
1.2 ส่วนราชการที่ประสงค์จะยุบเลิกบางภารกิจ
1.3 ส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเกินความจำเป็น หรือ
1.4 ส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวน
ข้าราชการทั้งหมดของส่วนราชการนั้น
2. กำหนดคุณสมบัติของข้าราชการซึ่งจะเข้าร่วมโครงการโดยต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปหรือมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ให้นับถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ และมีเวลาราชการที่เหลือไม่น้อยกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ โดยวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการต้องอยู่ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของโครงการ และกำหนดลักษณะต้องห้ามของข้าราชการ ซึ่งจะเข้าร่วมโครงการ เช่น ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการและไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการ เป็นต้น
3. กำหนดให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการตามโครงการเป็นจำนวน = (จำนวนปีของเวลาราชการที่เหลือ + 8) X เงินเดือนเดือนสุดท้าย แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย
4. กำหนดให้โครงการฯ ที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเป็นโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ และให้ข้าราชการซึ่งแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการดังกล่าวก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เป็นการแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้
5. พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 เมษายน 2551--จบ--