คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินมาตรการแทรกแซงราคาข้าวของ
รัฐบาลปี 2547 ผ่านโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/2547 และนาปรังปี 2547 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและสร้างเสถียรภาพราคาข้าวภายในประเทศ รวมทั้งผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้ขยายตัวสูงขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้และสร้างเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวนาซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/47 และนาปรังปี 2547
กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2546 จนถึง 31 ตุลาคม 2547 โดยกำหนดเป้าหมายปริมาณและราคารับจำนำข้าวเปลือก ดังนี้
1.1 ข้าวเปลือกนาปี ปริมาณรวม 9.0 ล้านตัน
1.1.1 ข้าวเปลือกหอมมะลิ ปริมาณ 5 ล้านตัน ราคารับจำนำ 6,700 — 7,000 บาท/ตัน
1.1.2 ข้าวเปลือกเจ้า ปริมาณ 3 ล้านตัน ราคารับจำนำ 4,760 — 5,330 บาท/ตัน
1.1.3 ข้าวเปลือกเหนียว ปริมาณ 1 ล้านตัน ราคารับจำนำ 5,650 — 5,900บาท/ตัน
1.2 ข้าวเปลือกนาปรัง ปริมาณรวม 2.5 ล้านตัน
1.2.1 ข้าวเปลือกหอม (สุพรรณบุรี/ปทุมธานี) ราคารับจำนำ 5,400-6,000 บาท/ตัน
1.2.2 ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ราคารับจำนำ 5,500 — 5,900 บาท/ตัน
ทั้งนี้ จากปริมาณเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 11.5 ล้านตัน ปรากฎว่ามีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาจำนำในโครงการฯ เพียง 2.502 ล้านตัน เพราะราคาข้าวเปลือกในตลาดซื้อขายกันสูงกว่าที่รัฐบาลรับจำนำ จึงมีข้าวเข้ามาจำนำเป็นจำนวนน้อย
2. งบประมาณในการดำเนินโครงการ
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/47 และนาปรังปี 2547 กระทรวงพาณิชย์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ในวงเงิน 1,729.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่างบประมาณที่ได้รับในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2545/46 และนาปรังปี 2546 ซึ่งได้รับในวงเงิน 3,206.8 ล้านบาท เป็นจำนวนถึง 1,477.4 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 46
3. ผลการดำเนินโครงการ
3.1 การยกระดับราคาข้าวเปลือก
ในปีการผลิต 2546/47 ราคาข้าวเปลือกในตลาดสูงขึ้นจากปีการผลิต 2545/46 ทำให้เกษตรกรชาวนาขายข้าวเปลือกได้ราคาสูงขึ้นโดยเฉลี่ย ดังนี้
3.1.1 ข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 8,524 บาท สูงขึ้นโดยเฉลี่ย 757 บาท/ตัน
3.1.2 ข้าวเปลือกเจ้านาปี/นาปรังมีราคาเฉลี่ยตันละ 4,907 บาทสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 198 บาท/ตัน
3.1.3 ข้าวเปลือกเหนียวมีราคาเฉลี่ยตันละ 6,470 บาท สูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 380 บาท/ตัน
3.1.4 ในปีการผลิต 2546/47 ผลผลิตข้าวเปลือกของเกษตรกรชาวนามีปริมาณ 27.241 ล้านตันข้าวเปลือก และราคาข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 5,974 บาท ทำให้เกษตรกรชาวนามีรายได้จากการขายผลผลิตข้าวรวมทั้งประเทศเป็นเงิน 162,730.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2545/46 ซึ่งมีผลผลิตข้าวเปลือก 26.057 ล้านตันข้าวเปลือก ราคาข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 5,615 บาท คิดเป็นรายได้ของเกษตรกรชาวนาเป็นเงิน 146,302.0 บาท สูงขึ้น มูลค่า 16,428.1 ล้านบาท
3.2 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวปี 2547
กระทรวงพาณิชย์ได้บริหารสต๊อกข้าวที่หลุดจำนำ และระบายโดยการประมูลขายให้เอกชนส่งออกในช่วงที่ข้าวขาดตลาดในราคาที่สูง ทำให้ปี 2547 นับเป็นประวัติการณ์ส่งออกข้าวไทยคือ มีปริมาณการส่งออกทั้งสิ้นสูงถึง 10.14 ล้านตัน มูลค่า 110,376 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2547 ที่ส่งออก 7.60 ล้านตัน มูลค่า 76,368 ล้านบาท เป็นปริมาณ 2.54 ล้านตัน และมูลค่า 34,008 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อพิจารณาผลการดำเนินการตามมาตรการแทรกแซงราคาข้าวของรัฐบาลตามข้อ 3.1 และ 3.2 จะเห็นได้ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2546/47 เป็นเงิน 1,729.4 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่างบประมาณที่ใช้ในปีการผลิต 2545/46 เกือบเท่าตัว แต่เมื่อเปรียบเทียบผลสำเร็จของการดำเนินโครงการกับค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนดังกล่าวแล้ว นับเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำ ในขณะที่ผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มค่าและเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ในการขายข้าวเปลือกของเกษตรกรชาวนาจากปีที่ผ่านมาถึง 13,299.8 ล้านบาท รวมทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นจากเดิม เป็นปริมาณ 2.54 ล้านตัน มูลค่า 34,008 ล้านบาท จึงถือได้ว่ามาตรการแทรกแซงราคาข้าวดังกล่าว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเพื่อให้กลไกตลาดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นยกระดับและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว รวมทั้งเสริมสร้างความเป็นอยู่และรายได้ของเกษตรกรชาวนาให้ดีขึ้น ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
รัฐบาลปี 2547 ผ่านโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/2547 และนาปรังปี 2547 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและสร้างเสถียรภาพราคาข้าวภายในประเทศ รวมทั้งผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้ขยายตัวสูงขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้และสร้างเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวนาซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/47 และนาปรังปี 2547
กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2546 จนถึง 31 ตุลาคม 2547 โดยกำหนดเป้าหมายปริมาณและราคารับจำนำข้าวเปลือก ดังนี้
1.1 ข้าวเปลือกนาปี ปริมาณรวม 9.0 ล้านตัน
1.1.1 ข้าวเปลือกหอมมะลิ ปริมาณ 5 ล้านตัน ราคารับจำนำ 6,700 — 7,000 บาท/ตัน
1.1.2 ข้าวเปลือกเจ้า ปริมาณ 3 ล้านตัน ราคารับจำนำ 4,760 — 5,330 บาท/ตัน
1.1.3 ข้าวเปลือกเหนียว ปริมาณ 1 ล้านตัน ราคารับจำนำ 5,650 — 5,900บาท/ตัน
1.2 ข้าวเปลือกนาปรัง ปริมาณรวม 2.5 ล้านตัน
1.2.1 ข้าวเปลือกหอม (สุพรรณบุรี/ปทุมธานี) ราคารับจำนำ 5,400-6,000 บาท/ตัน
1.2.2 ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ราคารับจำนำ 5,500 — 5,900 บาท/ตัน
ทั้งนี้ จากปริมาณเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 11.5 ล้านตัน ปรากฎว่ามีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาจำนำในโครงการฯ เพียง 2.502 ล้านตัน เพราะราคาข้าวเปลือกในตลาดซื้อขายกันสูงกว่าที่รัฐบาลรับจำนำ จึงมีข้าวเข้ามาจำนำเป็นจำนวนน้อย
2. งบประมาณในการดำเนินโครงการ
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/47 และนาปรังปี 2547 กระทรวงพาณิชย์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ในวงเงิน 1,729.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่างบประมาณที่ได้รับในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2545/46 และนาปรังปี 2546 ซึ่งได้รับในวงเงิน 3,206.8 ล้านบาท เป็นจำนวนถึง 1,477.4 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 46
3. ผลการดำเนินโครงการ
3.1 การยกระดับราคาข้าวเปลือก
ในปีการผลิต 2546/47 ราคาข้าวเปลือกในตลาดสูงขึ้นจากปีการผลิต 2545/46 ทำให้เกษตรกรชาวนาขายข้าวเปลือกได้ราคาสูงขึ้นโดยเฉลี่ย ดังนี้
3.1.1 ข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 8,524 บาท สูงขึ้นโดยเฉลี่ย 757 บาท/ตัน
3.1.2 ข้าวเปลือกเจ้านาปี/นาปรังมีราคาเฉลี่ยตันละ 4,907 บาทสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 198 บาท/ตัน
3.1.3 ข้าวเปลือกเหนียวมีราคาเฉลี่ยตันละ 6,470 บาท สูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 380 บาท/ตัน
3.1.4 ในปีการผลิต 2546/47 ผลผลิตข้าวเปลือกของเกษตรกรชาวนามีปริมาณ 27.241 ล้านตันข้าวเปลือก และราคาข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 5,974 บาท ทำให้เกษตรกรชาวนามีรายได้จากการขายผลผลิตข้าวรวมทั้งประเทศเป็นเงิน 162,730.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2545/46 ซึ่งมีผลผลิตข้าวเปลือก 26.057 ล้านตันข้าวเปลือก ราคาข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 5,615 บาท คิดเป็นรายได้ของเกษตรกรชาวนาเป็นเงิน 146,302.0 บาท สูงขึ้น มูลค่า 16,428.1 ล้านบาท
3.2 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวปี 2547
กระทรวงพาณิชย์ได้บริหารสต๊อกข้าวที่หลุดจำนำ และระบายโดยการประมูลขายให้เอกชนส่งออกในช่วงที่ข้าวขาดตลาดในราคาที่สูง ทำให้ปี 2547 นับเป็นประวัติการณ์ส่งออกข้าวไทยคือ มีปริมาณการส่งออกทั้งสิ้นสูงถึง 10.14 ล้านตัน มูลค่า 110,376 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2547 ที่ส่งออก 7.60 ล้านตัน มูลค่า 76,368 ล้านบาท เป็นปริมาณ 2.54 ล้านตัน และมูลค่า 34,008 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อพิจารณาผลการดำเนินการตามมาตรการแทรกแซงราคาข้าวของรัฐบาลตามข้อ 3.1 และ 3.2 จะเห็นได้ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2546/47 เป็นเงิน 1,729.4 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่างบประมาณที่ใช้ในปีการผลิต 2545/46 เกือบเท่าตัว แต่เมื่อเปรียบเทียบผลสำเร็จของการดำเนินโครงการกับค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนดังกล่าวแล้ว นับเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำ ในขณะที่ผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มค่าและเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ในการขายข้าวเปลือกของเกษตรกรชาวนาจากปีที่ผ่านมาถึง 13,299.8 ล้านบาท รวมทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นจากเดิม เป็นปริมาณ 2.54 ล้านตัน มูลค่า 34,008 ล้านบาท จึงถือได้ว่ามาตรการแทรกแซงราคาข้าวดังกล่าว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเพื่อให้กลไกตลาดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นยกระดับและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว รวมทั้งเสริมสร้างความเป็นอยู่และรายได้ของเกษตรกรชาวนาให้ดีขึ้น ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--