คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย และเรื่อง ระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย
1.1 อนุมัติตามมาตรา 27 (6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงิน (Straight loan) จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มราคาอ้อยฤดูการผลิตปี 2550/2551 ให้กับชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราตันอ้อยละ 169 บาท (จากเดิมตันละ 62 บาท) รวมเป็นเงิน 12,370.8 ล้านบาท (จากจำนวนอ้อย 73.2 ล้านตัน) ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน และให้กองทุนจ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อย ซึ่งจะทำให้กองทุนมีภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 24,833.22 ล้านบาท
1.2 เห็นชอบการกำหนดราคาขายน้ำตาลทราย ตามมาตรา 17 (18) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น้ำตาลทราย ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เสนอ ดังนี้
1.2.1 ราคาน้ำตาลทรายขาว 19 บาทต่อกิโลกรัม
1.2.2 ราคาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 20 บาทต่อกิโลกรัม
1.3 อนุมัติแนวทางการจัดการภาระหนี้ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1.3.1 ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเฉลี่ยทั่วประเทศสำหรับฤดูการผลิตปี 2550/2551 สูงเกิน 638 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส ให้กองทุนเก็บส่วนเกินจากชาวไร่อ้อยเพื่อชำระหนี้ต่อไป
1.3.2 ภาระหนี้กองทุนในส่วนของชาวไร่อ้อยซึ่งมีอยู่เดิม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 จำนวน 12,462.42 ล้านบาท รวมกับที่ขอกู้ใหม่ จำนวน 12,370.8 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,833.22 ล้านบาท เห็นควรให้กองทุนดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส. ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินของกองทุน
2. เห็นชอบในการกำหนดระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการตามที่เสนอ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
2.1 ความสำคัญของอ้อยในการพัฒนาเป็นพลังงานทดแทน
2.2 สภาพปัจจุบันในการผลิตอ้อยของไทยที่มีประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ต้นทุนสูง และการใช้ประโยชน์จากอ้อยยังไม่คุ้มค่า
2.3 แนวทางและเป้าหมายการพัฒนาการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ในประเด็นการปรับขึ้นราคาขายน้ำตาลทรายซึ่งเห็นว่าเมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลงก็เห็นควรให้โอกาสผู้บริโภคและอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากการแข่งขันด้านราคา ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
2. ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตาม ควบคุม ดูแลการจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายและเกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค
3. เห็นชอบในหลักการแผนการพัฒนาด้านอ้อยในระยะ 3 ปี (ฤดูการผลิตปี 2551/52-2553-54 โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับเอทานอลให้กระทรวงพลังงานร่วมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการตามแผนพัฒนาฯ ดังกล่าวด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 เมษายน 2551--จบ--
1. การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย
1.1 อนุมัติตามมาตรา 27 (6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงิน (Straight loan) จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มราคาอ้อยฤดูการผลิตปี 2550/2551 ให้กับชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราตันอ้อยละ 169 บาท (จากเดิมตันละ 62 บาท) รวมเป็นเงิน 12,370.8 ล้านบาท (จากจำนวนอ้อย 73.2 ล้านตัน) ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน และให้กองทุนจ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อย ซึ่งจะทำให้กองทุนมีภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 24,833.22 ล้านบาท
1.2 เห็นชอบการกำหนดราคาขายน้ำตาลทราย ตามมาตรา 17 (18) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น้ำตาลทราย ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เสนอ ดังนี้
1.2.1 ราคาน้ำตาลทรายขาว 19 บาทต่อกิโลกรัม
1.2.2 ราคาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 20 บาทต่อกิโลกรัม
1.3 อนุมัติแนวทางการจัดการภาระหนี้ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1.3.1 ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเฉลี่ยทั่วประเทศสำหรับฤดูการผลิตปี 2550/2551 สูงเกิน 638 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส ให้กองทุนเก็บส่วนเกินจากชาวไร่อ้อยเพื่อชำระหนี้ต่อไป
1.3.2 ภาระหนี้กองทุนในส่วนของชาวไร่อ้อยซึ่งมีอยู่เดิม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 จำนวน 12,462.42 ล้านบาท รวมกับที่ขอกู้ใหม่ จำนวน 12,370.8 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,833.22 ล้านบาท เห็นควรให้กองทุนดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส. ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินของกองทุน
2. เห็นชอบในการกำหนดระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการตามที่เสนอ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
2.1 ความสำคัญของอ้อยในการพัฒนาเป็นพลังงานทดแทน
2.2 สภาพปัจจุบันในการผลิตอ้อยของไทยที่มีประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ต้นทุนสูง และการใช้ประโยชน์จากอ้อยยังไม่คุ้มค่า
2.3 แนวทางและเป้าหมายการพัฒนาการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ในประเด็นการปรับขึ้นราคาขายน้ำตาลทรายซึ่งเห็นว่าเมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลงก็เห็นควรให้โอกาสผู้บริโภคและอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากการแข่งขันด้านราคา ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
2. ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตาม ควบคุม ดูแลการจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายและเกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค
3. เห็นชอบในหลักการแผนการพัฒนาด้านอ้อยในระยะ 3 ปี (ฤดูการผลิตปี 2551/52-2553-54 โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับเอทานอลให้กระทรวงพลังงานร่วมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการตามแผนพัฒนาฯ ดังกล่าวด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 เมษายน 2551--จบ--