คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
1. กรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด
2. หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณเพื่อโครงการพัฒนาจังหวัด และโครงการพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัด
3. กำหนดผู้รับผิดชอบในการพิจารณาให้ความเห็นชอบและยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด
4. ชะลอการยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แนวทางการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้แก่จังหวัด ดังนี้
1. กำหนดกรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัดไว้ จำนวนทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท เพื่อให้จังหวัดมีงบประมาณเพื่อการพัฒนาจังหวัดตามความจำเป็น โดยมีตัวแปรที่สำคัญในการจัดสรรให้เกิดความเป็นธรรม ดังนี้
1) ร้อยละ 50 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรเฉลี่ยเท่ากันทุกจังหวัด
2) ร้อยละ 10 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด
3) ร้อยละ 35 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามความผกผันของรายได้ต่อครัวเรือนในแต่ละจังหวัด
4) ร้อยละ 5 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Products : GPP)
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรให้จังหวัดดำเนินการในโครงการพัฒนาจังหวัดและโครงการร่วมระหว่างจังหวัด ดังนี้
1) เป็นโครงการที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาจังหวัด
2) เป็นโครงการพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัดเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม นำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนและสร้างรายได้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์แผนพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัด
3) เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่จังหวัด
4) เป็นโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการทั้งในด้านบุคลากร ด้านบริหารจัดการ และด้านกลุ่ม เป้าหมาย เป็นต้น
5) เป็นโครงการที่ไม่ผูกพันงบประมาณข้ามปี
6) เป็นโครงการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่อยู่ในคำขอตั้งงบประมาณของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ต้องเป็นโครงการที่สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2551 — 2554 และยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
3. กรณีผู้รับผิดชอบในการพิจารณาให้ความเห็นชอบและยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด เห็นควรกำหนดให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดและรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ และยื่นคำขอตามแบบฟอร์มที่สำนักงบประมาณกำหนด และส่งสำนักงบประมาณภายในสิ้นเดือนเมษายน 2551
4. สำหรับกลุ่มจังหวัดที่ในชั้นนี้ยังไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามบทบัญญัติวรรคสาม ของมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ยังไม่มีผลบังคับใช้ และกลุ่มจังหวัดยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล เห็นควรให้กลุ่มจังหวัดชะลอการยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ไว้ก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 เมษายน 2551--จบ--
1. กรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด
2. หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณเพื่อโครงการพัฒนาจังหวัด และโครงการพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัด
3. กำหนดผู้รับผิดชอบในการพิจารณาให้ความเห็นชอบและยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด
4. ชะลอการยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แนวทางการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้แก่จังหวัด ดังนี้
1. กำหนดกรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัดไว้ จำนวนทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท เพื่อให้จังหวัดมีงบประมาณเพื่อการพัฒนาจังหวัดตามความจำเป็น โดยมีตัวแปรที่สำคัญในการจัดสรรให้เกิดความเป็นธรรม ดังนี้
1) ร้อยละ 50 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรเฉลี่ยเท่ากันทุกจังหวัด
2) ร้อยละ 10 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด
3) ร้อยละ 35 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามความผกผันของรายได้ต่อครัวเรือนในแต่ละจังหวัด
4) ร้อยละ 5 ของวงเงินทั้งสิ้น จัดสรรตามผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Products : GPP)
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรให้จังหวัดดำเนินการในโครงการพัฒนาจังหวัดและโครงการร่วมระหว่างจังหวัด ดังนี้
1) เป็นโครงการที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาจังหวัด
2) เป็นโครงการพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัดเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม นำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนและสร้างรายได้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์แผนพัฒนาร่วมระหว่างจังหวัด
3) เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่จังหวัด
4) เป็นโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการทั้งในด้านบุคลากร ด้านบริหารจัดการ และด้านกลุ่ม เป้าหมาย เป็นต้น
5) เป็นโครงการที่ไม่ผูกพันงบประมาณข้ามปี
6) เป็นโครงการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่อยู่ในคำขอตั้งงบประมาณของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ต้องเป็นโครงการที่สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2551 — 2554 และยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
3. กรณีผู้รับผิดชอบในการพิจารณาให้ความเห็นชอบและยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของจังหวัด เห็นควรกำหนดให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดและรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ และยื่นคำขอตามแบบฟอร์มที่สำนักงบประมาณกำหนด และส่งสำนักงบประมาณภายในสิ้นเดือนเมษายน 2551
4. สำหรับกลุ่มจังหวัดที่ในชั้นนี้ยังไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามบทบัญญัติวรรคสาม ของมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ยังไม่มีผลบังคับใช้ และกลุ่มจังหวัดยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล เห็นควรให้กลุ่มจังหวัดชะลอการยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ไว้ก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 เมษายน 2551--จบ--