คณะรัฐมนตรีรับทราบ เรื่อง แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกร ตามที่คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนเสนอดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเมื่อปี 2546 และปี 2547 และถูกฟ้องร้องบังคับคดีภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2547 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) เสนอทั้ง 4 ข้อ คือ
1. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยใช้ช่องทางระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546
2. เห็นชอบแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 ข้อ 4 ให้เปิดรับหนี้ของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 เฉพาะรายที่ถูก ธ.ก.ส. ฟ้องดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ชำระหนี้แล้ว
3. เห็นชอบวงเงินขั้นสูงในการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกองทุนหมุนเวียนฯ กำหนดวงเงิน ขั้นสูงไว้ไม่เกินรายละ 500,000 บาท หรือกำหนดมากกว่ารายละ 500,000 บาท ทั้งนี้ หากจะแก้ไขวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือเกินกว่า 500,000 บาท ต้องแก้ไขในระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2547 ข้อ 19(1) โดยนำเสนอ กชก. พิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วอาศัยอำนาจปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามในระเบียบฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป
4. มอบให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้รับผิดชอบสำรวจเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส. ตามเงื่อนไขดังกล่าวและประสานกับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งที่มีเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ขึ้นทะเบียนไว้ และอยู่ในหลักเกณฑ์ตามเงื่อนไข นั้น
กชก.ในการประชุมครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2548 ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบดังนี้
1. ให้แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 ข้อ 4 ให้เปิดรับหนี้ของเกษตรกร หรือเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส.
2. ให้แก้ไขระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2547 ให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากองทุนฟื้นฟู
3. ให้รับโอนหนี้ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงิน (ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ และ ธ.ก.ส.) ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ตามระเบียบฯ ที่แก้ไข จำนวน 724 ราย จำนวนเงินที่ธนาคารรับชำระหนี้ทั้งหมด 306.5 ล้านบาท จากยอดหนี้ทั้งหมด 858.8 ล้านบาท โดยสามารถลดยอดเงินที่ชำระหนี้ลง คิดเป็นร้อยละ 64.3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมด โดย กชก. ได้มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธาน กชก. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติต่อไป
4. รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธาน กชก. ได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ผ่านรองนายก-รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อทราบ และพิจารณาลงนามในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548 แล้วเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--
ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเมื่อปี 2546 และปี 2547 และถูกฟ้องร้องบังคับคดีภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2547 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) เสนอทั้ง 4 ข้อ คือ
1. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยใช้ช่องทางระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546
2. เห็นชอบแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 ข้อ 4 ให้เปิดรับหนี้ของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 เฉพาะรายที่ถูก ธ.ก.ส. ฟ้องดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ชำระหนี้แล้ว
3. เห็นชอบวงเงินขั้นสูงในการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกองทุนหมุนเวียนฯ กำหนดวงเงิน ขั้นสูงไว้ไม่เกินรายละ 500,000 บาท หรือกำหนดมากกว่ารายละ 500,000 บาท ทั้งนี้ หากจะแก้ไขวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือเกินกว่า 500,000 บาท ต้องแก้ไขในระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2547 ข้อ 19(1) โดยนำเสนอ กชก. พิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วอาศัยอำนาจปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามในระเบียบฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป
4. มอบให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้รับผิดชอบสำรวจเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส. ตามเงื่อนไขดังกล่าวและประสานกับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งที่มีเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ขึ้นทะเบียนไว้ และอยู่ในหลักเกณฑ์ตามเงื่อนไข นั้น
กชก.ในการประชุมครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2548 ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบดังนี้
1. ให้แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 ข้อ 4 ให้เปิดรับหนี้ของเกษตรกร หรือเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส.
2. ให้แก้ไขระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2547 ให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากองทุนฟื้นฟู
3. ให้รับโอนหนี้ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงิน (ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ และ ธ.ก.ส.) ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ตามระเบียบฯ ที่แก้ไข จำนวน 724 ราย จำนวนเงินที่ธนาคารรับชำระหนี้ทั้งหมด 306.5 ล้านบาท จากยอดหนี้ทั้งหมด 858.8 ล้านบาท โดยสามารถลดยอดเงินที่ชำระหนี้ลง คิดเป็นร้อยละ 64.3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมด โดย กชก. ได้มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธาน กชก. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติต่อไป
4. รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธาน กชก. ได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ผ่านรองนายก-รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อทราบ และพิจารณาลงนามในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548 แล้วเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--