คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่ 9 ช่วงวันที่ 28 เมษายน-
2 พฤษภาคม 2551 สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (2 พฤษภาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด
40,950 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 17,637 ล้านลูกบาศก์เมตร คิด
เป็นร้อยละ 39 ความจุน้ำใช้การได้) น้อยกว่าปี 2550 (46,113 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 5,163 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น ร้อยละ 7
เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 6,348 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การ
ได้ 2,548 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี 2550 (8,718 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,370 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร
เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 4,241 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำ
ใช้การได้ 1,391 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี 2550 (5,825 ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 1,584
ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนป่าสักฯ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 267 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 28ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การ
ได้ 264 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี2550 (371 ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 104 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ ดังนี้
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำ (ล้าน ลบ.ม.)
ในอ่างฯ ใช้การได้
1) แม่กวง เชียงใหม่ 47 (18%) 33 (13%)
2) กิ่วลม ลำปาง 29 (26%) 25 (22%)
3) ป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี 267 (28%) 264 (27%)
4) คลองสียัด ฉะเชิงเทรา 89 (21%) 59 (14%)
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30-40 ของความจุอ่างฯ จำนวน 8 อ่างฯ ดังนี้
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำ (ล้าน ลบ.ม.)
ในอ่างฯ ใช้การได้
1) ลำปาว กาฬสินธุ์ 486 (34%) 401 (28%)
2) ลำตะคอง นครราชสีมา 121 (38%) 93 (30%)
3) ลำพระเพลิง นครราชสีมา 38 (35%) 37 (34%)
4) ลำนางรอง บุรีรัมย์ 39 (32%) 36 (30%)
5) ทับเสลา อุทัยธานี 57 (36%) 49 (31%)
6) ขุนด่านฯ นครนายก 80 (36%) 75 (34%)
7) บางพระ ชลบุรี 40 (34%) 25 (21%)
8) แม่งัด เชียงใหม่ 94 (36%) 72 (27%)
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง รวมกัน ปัจจุบัน มีปริมาตรน้ำ 65.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 37 (คิด
เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุใช้การได้) ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบางพระ 40.03 ล้านลูกบาศก์
เมตร หนองค้อ 5.44 ล้านลูกบาศก์เมตร มาบประชัน 7.35 ล้านลูกบาศก์เมตร หนองกลางดง 5.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ชากนอก 2.95 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร ห้วยขุนจิต 2.66 ล้านลูกบาศก์เมตร ห้วยสะพาน 2.17 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำ
ใช้การได้คงเหลือจำนวน 36 ล้านลูกบาศก์เมตร (คิดเป็นร้อยละ 20 ของความจุอ่าง หรือ ร้อยละ 23 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด)
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยอง และ ลุ่มน้ำประแสร์ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง รวมกัน ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 297.88 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57 ( คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 269 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุใช้การได้) ประกอบด้วย
อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 84.05 ล้านลูกบาศก์เมตร ดอกกราย 26.64 ล้านลูกบาศก์เมตร และ คลองใหญ่ 17.04 ล้านลูกบาศก์เมตร และ
ประแสร์ 170.15 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือจำนวน 195 ล้านลูกบาศก์เมตร
(คิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่าง หรือ ร้อยละ 39 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด)
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มทรงตัว และ
สถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แนวโน้มทรงตัว
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และสถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัด
สุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แนวโน้ม
ทรงตัว
แม่น้ำน่าน สถานี N.5A สะพาน เอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี N.67
สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้า
พระยา (C.13) 220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + 7.90
เมตร.(รทก.) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 11 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 47 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
3. คุณภาพน้ำ
แม่น้ำ จุดเฝ้าระวัง ความเค็ม วันที่ เกณฑ์
(กรัม/ลิตร) ตรวจวัด
เจ้าพระยา ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี 0.16 28 เมษายน 2551 น้ำสำหรับการเกษตรและ
ท่าจีน ที่ว่าการอำเภอสามพราน 0.158 28 เมษายน 2551 อุปโภค-บริโภค ไม่เกิน
จังหวัดนครปฐม 2 กรัม/ลิตร
แม่กลอง ปากคลองดำเนินสะดวก 0.056 20 เมษายน 2551
จังหวัดราชบุรี
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550—30 เมษายน 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 18.07 ไร่
(เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 10%) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 11.59 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่ คาดการณ์ 15%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.59 ล้าน
ไร่ (92.5%ของพื้นที่คาดการณ์) และอื่นๆ จำนวน 3.89 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 12%) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก อื่นๆ รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 8.83 0.9 0.75 3.47 3.89 11.9 13.47
นอกเขตชลประทาน 2.5 2.76 1.9 1.84 - - 4.4 4.6
รวม 10.03 11.59 2.8 2.59 3.47 3.89 16.3 18.07
หมายเหตุ : อื่นๆ หมายถึง อ้อย ไม้ผล ไม้ยืนต้น บ่อปลา บ่อกุ้ง และพืชอื่นๆ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 —28 เมษายน 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 9 จังหวัด 17 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุตรดิตถ์ ยโสธร อุบลราชธานี ชัยนาท
นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และกาญจนบุรี เกษตรกรประสบภัย จำนวน9,471 ราย พื้นที่เสียหาย 142,280 ไร่ แยกเป็น ข้าว 125,274 ไร่
พืชไร่ 16,074 ไร่ และพืชสวน 482 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 7 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กาฬสินธุ์ มุกดาหาร
เกษตรกรประสบภัย จำนวน 572 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 10,083 ตัว แยกเป็นโค-กระบือ 4,508 ตัว แพะ 1,083 ตัว สัตว์ปีก 4,492 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว
58 จังหวัด จำนวน 801 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 199เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 296
เครื่อง ภาคกลาง 11 จังหวัด จำนวน 100 เครื่อง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด จำนวน 70 เครื่อง ภาคตะวันตก 3 จังหวัด จำนวน 48 เครื่อง
และภาคใต้ 6 จังหวัด จำนวน 88 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 34 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 32.27 ล้านลิตร เป็นการช่วยเหลือเพื่ออุปโภค
บริโภค 2 จังหวัด คือ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 คัน และจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 คัน เป็นการช่วยเหลือสวนผลไม้ในภาคตะวันออก 4
จังหวัด จำนวน 23 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 13 คัน นครนายก 1 คัน และตราด 7 คัน
2. การสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
สนับสนุนเสบียงสัตว์ 68,020 กิโลกรัม และดูแลสุขภาพสัตว์ 300 ตัว
3. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ —24 เมษายน 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 8 หน่วย และ 5 ฐานเติมสาร ฝนหลวง ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน : หน่วยฯ เชียงใหม่ และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดตาก
2) ภาคเหนือตอนล่าง : หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง : หน่วยฯ นครสวรรค์/ลพบุรี ,ฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน : หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง : หน่วยฯ นครราชสีมา และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดอุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก : หน่วยฯ ระยอง/สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว/ระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน : หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
8) ภาคใต้ตอนล่าง : หน่วยฯ สุราษฎร์ธานี
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ —1 พฤษภาคม 2551 ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 85 วัน 1,780 เที่ยวบิน มีฝนตก
รวม 707 สถานี (จากสถานีวัดฝนทั้งหมด 1,149 สถานี) วัดปริมาณน้ำฝน 0.1-171.3.3 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่
เชียงราย พะเยา ลำปางแม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย น่าน กำแพงเพชร พิจิตร แพร่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี
กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม อุทัยธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี ร้อยเอ็ด
นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม เลย ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ
ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา
นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ระนอง ปัตตานี ตรัง และสตูล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2551--จบ--
2 พฤษภาคม 2551 สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (2 พฤษภาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด
40,950 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 17,637 ล้านลูกบาศก์เมตร คิด
เป็นร้อยละ 39 ความจุน้ำใช้การได้) น้อยกว่าปี 2550 (46,113 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 5,163 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น ร้อยละ 7
เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 6,348 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การ
ได้ 2,548 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี 2550 (8,718 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,370 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร
เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 4,241 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำ
ใช้การได้ 1,391 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี 2550 (5,825 ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 1,584
ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนป่าสักฯ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 267 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 28ของความจุอ่างฯ คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การ
ได้ 264 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุใช้การได้ น้อยกว่าปี2550 (371 ล้านลูกบาศก์เมตร ) จำนวน 104 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ ดังนี้
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำ (ล้าน ลบ.ม.)
ในอ่างฯ ใช้การได้
1) แม่กวง เชียงใหม่ 47 (18%) 33 (13%)
2) กิ่วลม ลำปาง 29 (26%) 25 (22%)
3) ป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี 267 (28%) 264 (27%)
4) คลองสียัด ฉะเชิงเทรา 89 (21%) 59 (14%)
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30-40 ของความจุอ่างฯ จำนวน 8 อ่างฯ ดังนี้
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำ (ล้าน ลบ.ม.)
ในอ่างฯ ใช้การได้
1) ลำปาว กาฬสินธุ์ 486 (34%) 401 (28%)
2) ลำตะคอง นครราชสีมา 121 (38%) 93 (30%)
3) ลำพระเพลิง นครราชสีมา 38 (35%) 37 (34%)
4) ลำนางรอง บุรีรัมย์ 39 (32%) 36 (30%)
5) ทับเสลา อุทัยธานี 57 (36%) 49 (31%)
6) ขุนด่านฯ นครนายก 80 (36%) 75 (34%)
7) บางพระ ชลบุรี 40 (34%) 25 (21%)
8) แม่งัด เชียงใหม่ 94 (36%) 72 (27%)
สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง
จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง รวมกัน ปัจจุบัน มีปริมาตรน้ำ 65.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 37 (คิด
เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุใช้การได้) ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบางพระ 40.03 ล้านลูกบาศก์
เมตร หนองค้อ 5.44 ล้านลูกบาศก์เมตร มาบประชัน 7.35 ล้านลูกบาศก์เมตร หนองกลางดง 5.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ชากนอก 2.95 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร ห้วยขุนจิต 2.66 ล้านลูกบาศก์เมตร ห้วยสะพาน 2.17 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำ
ใช้การได้คงเหลือจำนวน 36 ล้านลูกบาศก์เมตร (คิดเป็นร้อยละ 20 ของความจุอ่าง หรือ ร้อยละ 23 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด)
จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำระยอง และ ลุ่มน้ำประแสร์ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง รวมกัน ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 297.88 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57 ( คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 269 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุใช้การได้) ประกอบด้วย
อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 84.05 ล้านลูกบาศก์เมตร ดอกกราย 26.64 ล้านลูกบาศก์เมตร และ คลองใหญ่ 17.04 ล้านลูกบาศก์เมตร และ
ประแสร์ 170.15 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้คงเหลือจำนวน 195 ล้านลูกบาศก์เมตร
(คิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่าง หรือ ร้อยละ 39 ของความจุใช้การได้ทั้งหมด)
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มทรงตัว และ
สถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แนวโน้มทรงตัว
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และสถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัด
สุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แนวโน้ม
ทรงตัว
แม่น้ำน่าน สถานี N.5A สะพาน เอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี N.67
สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้า
พระยา (C.13) 220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + 7.90
เมตร.(รทก.) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 11 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 47 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
3. คุณภาพน้ำ
แม่น้ำ จุดเฝ้าระวัง ความเค็ม วันที่ เกณฑ์
(กรัม/ลิตร) ตรวจวัด
เจ้าพระยา ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี 0.16 28 เมษายน 2551 น้ำสำหรับการเกษตรและ
ท่าจีน ที่ว่าการอำเภอสามพราน 0.158 28 เมษายน 2551 อุปโภค-บริโภค ไม่เกิน
จังหวัดนครปฐม 2 กรัม/ลิตร
แม่กลอง ปากคลองดำเนินสะดวก 0.056 20 เมษายน 2551
จังหวัดราชบุรี
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
ผลการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550—30 เมษายน 2551 มีพื้นที่ปลูกรวม จำนวน 18.07 ไร่
(เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 10%) แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 11.59 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่ คาดการณ์ 15%) และพืชไร่-ผัก จำนวน 2.59 ล้าน
ไร่ (92.5%ของพื้นที่คาดการณ์) และอื่นๆ จำนวน 3.89 ล้านไร่ (เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ 12%) รายละเอียดดังนี้
เขตเพาะปลูก ข้าวนาปรัง พืชไร่-พืชผัก อื่นๆ รวม
คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล คาดการณ์ ผล
ในเขตชลประทาน 7.53 8.83 0.9 0.75 3.47 3.89 11.9 13.47
นอกเขตชลประทาน 2.5 2.76 1.9 1.84 - - 4.4 4.6
รวม 10.03 11.59 2.8 2.59 3.47 3.89 16.3 18.07
หมายเหตุ : อื่นๆ หมายถึง อ้อย ไม้ผล ไม้ยืนต้น บ่อปลา บ่อกุ้ง และพืชอื่นๆ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 —28 เมษายน 2551
1. ด้านพืช พื้นที่ประสบภัย จำนวน 9 จังหวัด 17 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุตรดิตถ์ ยโสธร อุบลราชธานี ชัยนาท
นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และกาญจนบุรี เกษตรกรประสบภัย จำนวน9,471 ราย พื้นที่เสียหาย 142,280 ไร่ แยกเป็น ข้าว 125,274 ไร่
พืชไร่ 16,074 ไร่ และพืชสวน 482 ไร่
2. ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ประสบภัย จำนวน 7 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กาฬสินธุ์ มุกดาหาร
เกษตรกรประสบภัย จำนวน 572 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 10,083 ตัว แยกเป็นโค-กระบือ 4,508 ตัว แพะ 1,083 ตัว สัตว์ปีก 4,492 ตัว
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
สนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ด้านอุปโภคบริโภค และ การปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ทั้งประเทศ ปี 2550/2551 แล้ว
58 จังหวัด จำนวน 801 เครื่อง โดยแยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด จำนวน 199เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 296
เครื่อง ภาคกลาง 11 จังหวัด จำนวน 100 เครื่อง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด จำนวน 70 เครื่อง ภาคตะวันตก 3 จังหวัด จำนวน 48 เครื่อง
และภาคใต้ 6 จังหวัด จำนวน 88 เครื่อง
สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 34 คัน คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 32.27 ล้านลิตร เป็นการช่วยเหลือเพื่ออุปโภค
บริโภค 2 จังหวัด คือ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 คัน และจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 คัน เป็นการช่วยเหลือสวนผลไม้ในภาคตะวันออก 4
จังหวัด จำนวน 23 คัน ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 คัน จันทบุรี 13 คัน นครนายก 1 คัน และตราด 7 คัน
2. การสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
สนับสนุนเสบียงสัตว์ 68,020 กิโลกรัม และดูแลสุขภาพสัตว์ 300 ตัว
3. การปฏิบัติการฝนหลวง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ —24 เมษายน 2551
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มปฏิบัติแล้ว จำนวน 8 หน่วย และ 5 ฐานเติมสาร ฝนหลวง ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน : หน่วยฯ เชียงใหม่ และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดตาก
2) ภาคเหนือตอนล่าง : หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง : หน่วยฯ นครสวรรค์/ลพบุรี ,ฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน : หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง : หน่วยฯ นครราชสีมา และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดอุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก : หน่วยฯ ระยอง/สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว/ระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน : หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
8) ภาคใต้ตอนล่าง : หน่วยฯ สุราษฎร์ธานี
ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ —1 พฤษภาคม 2551 ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 85 วัน 1,780 เที่ยวบิน มีฝนตก
รวม 707 สถานี (จากสถานีวัดฝนทั้งหมด 1,149 สถานี) วัดปริมาณน้ำฝน 0.1-171.3.3 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่
เชียงราย พะเยา ลำปางแม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย น่าน กำแพงเพชร พิจิตร แพร่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี
กาญจนบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม อุทัยธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี ร้อยเอ็ด
นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม เลย ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ
ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ยะลา
นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ระนอง ปัตตานี ตรัง และสตูล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2551--จบ--