คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 สำหรับหนี้พันธบัตรรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 5 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.125 ต่อปี ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 จำนวน 34,950 ล้านบาท เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนต้นเงิน โดยมีขั้นตอนในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
1. ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 5 แห่ง วงเงินรวม 34,950 ล้านบาท ระยะเวลาในการชำระคืนต้นเงินกู้ไม่เกิน 2 เดือน และนำไปไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดจำนวน 34,950 ล้านบาท ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551
2. การดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1- ครั้งที่ 4 จำนวนรวม 34,657 ล้านบาท ประมูลตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ — 26 มีนาคม 2551 และทยอยนำเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นตามที่กล่าวข้างต้นให้กับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
2.1 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1 (LB133A) อายุคงเหลือ 5.06 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ต่อปี จำนวน 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 8 อายุ 5.67 ปี โดยประมูลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่น ดังกล่าวมีจำนวน 62,000 ล้านบาท
2.2 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 2 (LB233A) อายุคงเหลือ 15.04 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.50 ต่อปี จำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 4 อายุ 15.22 ปี โดยประมูลในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 12,000 ล้านบาท
2.3 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 (LB183B) อายุคงเหลือ 9.98 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.125 ต่อปี จำนวน 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 2 อายุ 10.31 ปี โดยประมูลในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ซึ่งประมูลได้จำนวน 9,707 ล้านบาท ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 26,707 ล้านบาท
2.4 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 4 (LB283A) อายุคงเหลือ 19.97 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.67 ต่อปี จำนวน 5,950 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 อายุ 20.30 ปี โดยประมูลในวันที่ 26 มีนาคม 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 17,950 ล้านบาท
สำหรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 (LB183B) ตามข้อ 2.3 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 จำนวน 10,000 ล้านบาท (มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนการประมูล) เพื่อนำเงินไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นที่กู้มาเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างหนี้ มีผู้เสนอประมูลเพียงจำนวน 9,707 ล้านบาท ต่ำกว่า วงเงินที่ประกาศไว้จำนวน 293 ล้านบาท จึงทำให้มีการกู้เงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในครั้งนี้เพียงจำนวน 9,707 ล้านบาท ซึ่งในทางปฏิบัติกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลังปรับลดวงเงินการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าว จากจำนวน 10,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 9,707 ล้านบาท และนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ส่วนวงเงินที่ขาดจำนวน 293 ล้านบาท ก็ไม่ได้นำไปเพิ่มเติมในวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอื่น เนื่องจากมีเงินส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตรรุ่นดังกล่าวจำนวน 483,671,645.69 บาท ซึ่งสามารถนำเงินส่วนเกินที่ได้รับจากการประมูล
พันธบัตรรัฐบาลไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกพันธบัตรรัฐบาลให้เต็มวงเงิน
3. เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังจะต้องประกาศผลการกู้เงินในราชกิจจานุเบกษาภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ทำสัญญากู้หรือออกตราสารหนี้ กระทรวงการคลังจึงขอให้ลงประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1 - ครั้งที่ 4 ในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 พฤษภาคม 2551--จบ--
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 สำหรับหนี้พันธบัตรรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 5 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.125 ต่อปี ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 จำนวน 34,950 ล้านบาท เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนต้นเงิน โดยมีขั้นตอนในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
1. ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 5 แห่ง วงเงินรวม 34,950 ล้านบาท ระยะเวลาในการชำระคืนต้นเงินกู้ไม่เกิน 2 เดือน และนำไปไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดจำนวน 34,950 ล้านบาท ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551
2. การดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1- ครั้งที่ 4 จำนวนรวม 34,657 ล้านบาท ประมูลตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ — 26 มีนาคม 2551 และทยอยนำเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นตามที่กล่าวข้างต้นให้กับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
2.1 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1 (LB133A) อายุคงเหลือ 5.06 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ต่อปี จำนวน 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 8 อายุ 5.67 ปี โดยประมูลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่น ดังกล่าวมีจำนวน 62,000 ล้านบาท
2.2 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 2 (LB233A) อายุคงเหลือ 15.04 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.50 ต่อปี จำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 4 อายุ 15.22 ปี โดยประมูลในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 12,000 ล้านบาท
2.3 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 (LB183B) อายุคงเหลือ 9.98 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.125 ต่อปี จำนวน 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 2 อายุ 10.31 ปี โดยประมูลในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ซึ่งประมูลได้จำนวน 9,707 ล้านบาท ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 26,707 ล้านบาท
2.4 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 4 (LB283A) อายุคงเหลือ 19.97 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.67 ต่อปี จำนวน 5,950 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Re-open พันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 อายุ 20.30 ปี โดยประมูลในวันที่ 26 มีนาคม 2551 ทำให้ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าวมีจำนวน 17,950 ล้านบาท
สำหรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 3 (LB183B) ตามข้อ 2.3 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 จำนวน 10,000 ล้านบาท (มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนการประมูล) เพื่อนำเงินไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นที่กู้มาเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างหนี้ มีผู้เสนอประมูลเพียงจำนวน 9,707 ล้านบาท ต่ำกว่า วงเงินที่ประกาศไว้จำนวน 293 ล้านบาท จึงทำให้มีการกู้เงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในครั้งนี้เพียงจำนวน 9,707 ล้านบาท ซึ่งในทางปฏิบัติกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลังปรับลดวงเงินการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นดังกล่าว จากจำนวน 10,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 9,707 ล้านบาท และนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ส่วนวงเงินที่ขาดจำนวน 293 ล้านบาท ก็ไม่ได้นำไปเพิ่มเติมในวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอื่น เนื่องจากมีเงินส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตรรุ่นดังกล่าวจำนวน 483,671,645.69 บาท ซึ่งสามารถนำเงินส่วนเกินที่ได้รับจากการประมูล
พันธบัตรรัฐบาลไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกพันธบัตรรัฐบาลให้เต็มวงเงิน
3. เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังจะต้องประกาศผลการกู้เงินในราชกิจจานุเบกษาภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ทำสัญญากู้หรือออกตราสารหนี้ กระทรวงการคลังจึงขอให้ลงประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 1 - ครั้งที่ 4 ในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 พฤษภาคม 2551--จบ--